นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การร่วมมือกับ Airbnb ครั้งนี้จะทำให้ ททท. สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีค่าและจะช่วยให้สามารถติดตามแนวโน้มการท่องเที่ยวทั่วประเทศได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนโยบาย คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย และการทำงานร่วมกับ Airbnb จะช่วยขยายอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวในระดับชุมชนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น โดย Airbnb กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดตัวเว็บไซต์ http://thailand.beyondbigcities.com ด้วยการนำบิ๊กดาต้าและความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดิจิทัลของ Airbnb มาช่วยผลักดันการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไปยังจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ทั่วประเทศไทยซึ่งนอกเหนือจากเมืองใหญ่ และเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนโดยคนในชุมชนท้องถิ่นตามนโยบายของรัฐบาลไทย เช่น หนองแซง จังหวัดสระบุรี ดอยพุ่ยโค จังหวัดแม่ฮ่องสอน วังทอง จังหวัดพิษณุโลก และอีกหลายๆ เมืองในประเทศไทย ด้าน นางมิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb กล่าวว่า Airbnb หวังที่จะช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้จึงได้ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งความร่วมมือกับททท. ในครั้งนี้ จะได้เห็นถึงข้อมูล และแนวโน้มการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ การเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากเมืองใหญ่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นการสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการสร้างความหลากหลายของการท่องเที่ยว สร้างรูปแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการในชุมชนอีกทางด้วย สำหรับการทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรการท่องเที่ยวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการด้านการบริการในการแบ่งปันพื้นที่และความชอบกับผู้เข้าพักและนักเดินทางจากทั่วโลก โดยAirbnb มุ่งสร้างการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางแห่งใหม่ให้เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และอีกสิ่งหนึ่งที่ Airbnb ได้เห็นถึงการเติบโต คือ การจัดงานสำคัญในเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากกว่า 250,000 คน เข้าพักกับ Airbnb ในเมืองต่างๆ ที่นอกเหนือจากเมืองใหญ่ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงที่มีการจัดงานใหญ่ ช่วยสร้างรายได้มากกว่า 728 ล้านบาทให้กับเจ้าของที่พักในชุมชนที่อยู่ในจุดหมายปลายทางเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น บุรีรัมย์ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางด้านกีฬาของไทย Airbnb ได้ร่วมมือกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ โครงการ B-Stay ผู้ให้บริการโฮมสเตย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อสร้างที่พักที่มีความยืดหยุ่นในการรองรับ งานโมโตจีพี 2018 และ 2019 สำหรับงานโมโตจีพี 2019 ล่าสุด ชุมชนเจ้าของที่พัก Airbnb มีโอกาสต้อนรับผู้คนมากกว่า 430 คน ที่เดินทางมาจากกว่า 100 เมืองทั่วโลกเพื่อเข้าพักในชุมชน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตัวเลขนี้ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะคนในชุมชนได้เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ต้องการมาสัมผัสกับประสบการณ์ในการท่องเที่ยวแบบชาวบุรีรัมย์ที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม นางมิช กล่าวต่อว่า รัฐบาลหลายแห่งและนักเดินทางส่วนใหญ่หันมาใช้บริการ Airbnb เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการเพิ่มปริมาณที่พักแบบไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน ใดๆ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านการบริการที่อยากจะเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นให้กับผู้มาเยือนจากทั่วโลกด้วย แนวโน้มการท่องเที่ยวดังกล่าวกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากเมืองเล็กๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิกเป็นเจ้าภาพการจัดงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่สำคัญหลายงาน อาทิ การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมืองคุมะโมโต้มีจำนวนผู้เข้าพักเพิ่มสูงขึ้นถึง 176% และเมืองโออิตะมีผู้เข้าพักเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เป็นต้น