นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยถึงกล่าวถึงกรณีมีหญิงสาวรายหนึ่งระบุว่าถูกดาราชายคนหนึ่งมอมยา ด้วยการให้เยลลี่ผสมสารทีเอชซี (THC) จากกัญชาทาน จนเกิดอาการมึน ใจสั่น เวียนศีรษะ ว่า กัญชาเป็นพืชที่มีประโยชน์ แต่ขอเตือนว่าในประเทศไทยยังอนุญาตให้ใช้ได้แค่ในทางการแพทย์และการวิจัยเท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้ใช้ทั่วไป ซึ่งผู้ที่มีการลักลอบใช้โดยไม่มีเหตุจำเป็น หรือนำเข้าจากต่างประเทศก็จะถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย ส่วนกรณีที่เป็นข่าวนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะมีการสืบสวน และดำเนินคดี โดยตนจะสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไปติดตามเรื่องนี้อีกทางหนึ่งด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำกัญชาไปใส่ในอาหารนั้น ในต่างประเทศมีการทำอยู่ แต่ใช้สารซีบีดี เพราะไม่ทำให้เกิดการเสพติดหรือมึนเมา แต่ไม่ได้ใส่ลงไปในปริมาณมาก ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร มีการนำเข้ามาหรือไม่ แต่กฎหมายไทยยังไม่อนุญาต นอกจากนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังถือจัดให้สารทีเอชซีเป็นสารเสพติดอยู่ เพราะมีการออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ทำให้เกิดความเคลิบเคลิ้ม มึน ขึ้นอยู่กับบุคคล และปริมาณที่ได้รับ สำหรับ กัญชามีสารหลายอย่าง แต่หากจะออกฤทธิ์เร็วสุดคือ การหยดใต้ลิ้น หรือการเผาแล้วสูดดม ซึ่งการรับประทานนั้นมีสารออกฤทธิ์เหมือนกันแต่ไม่มาก เพราะต้องผ่านระบบการย่อย ผ่านตับ กว่าจะออกฤทธิ์ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ และต้องดูปริมาณที่ใส่ลงไป รวมถึงดูที่ความสามารถในการรับสารของแต่ละบุคคลด้วย