ลุงวัย 60 ขับกระบะไปซื้อของตลาดในตัวเมืองบุรีรัมย์ตอนเช้ามืดเพื่อมาขายที่บ้าน ถูกวัวเพศผู้น้ำหนักเกือบตันวิ่งตัดหน้ากระชั้นชิดเบรกไม่ทัน พุ่งชนเต็มแรงหน้ารถพังยับ ส่วนวัวกระเด็นตกข้างทางขาหลังหักทั้ง 2 ข้างอาการสาหัส ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของคาดกลัวความผิด พบเชือกล่ามมีเพียงเศษต้นข้าวแห้งติดมาด้วย เมื่อเวลา 05.30 น. (18 พ.ย.62) ร.ต.อ.ทวีสิน ศรีสุริยชัย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุรถกระบะชนวัวได้รับบาดเจ็บและรถพังเสียหาย บนถนนสายบุรีรัมย์ – สุรินทร์ บริเวณบ้านสวายจีก ต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน บก-8038 บุรีรัมย์ จอดอยู่ริมถนน ในสภาพกระโปรงหน้ารถยุบเกือบถึงคอนโซน ไฟหน้ารถแตกเสียหายซึ่งเกิดจากแรงกระแทกอย่างแรง บริเวณทุ่งนาข้างทางพบวัวพันธุ์ผสม เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม ที่ถูกรถกระบะพุ่งชนกระเด็นตกข้างทางขาหลังหักทั้งสองข้างอาการสาหัส โชคดีที่คนขับปลอดภัย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เชือกที่ใช้ผูกล่ามวัวตัวดังกล่าว ยังมีเศษต้นข้าวแห้งติดมากับเชือกด้วย จึงคาดว่าเจ้าของน่าจะผูกล่ามไว้กับต้นข้าวแห้งทั้งที่วัวน้ำหนักเกือบตัน จึงทำให้หลุดได้ง่าย จากการสอบถามนายชาญ ผู้พลอย อายุ 60 ปี เจ้าของรถกระบะที่ประสบเหตุ เล่าว่า ตนขับรถกระบะมาลำพังจะไปซื้อของที่ตลาดในตัวเมืองบุรีรัมย์ เพื่อมาขายที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงเช้ามืด วัวตัวดังกล่าวก็วิ่งข้ามถนนมาตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทันจึงได้พุ่งชนเต็มแรง จนวัวกระเด็นตกข้างทาง ส่วนหน้ารถตนเองก็พังเสียหายคาดว่าน่าจะเสียค่าซ่อมไม่ต่ำกว่า 20,000 -30,000 บาท แต่เบื้องต้นไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของวัวคาดว่าน่าจะกลัวความผิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า หากไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของวัว ก็จะนำซากไปประมูล เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถ แต่หากเจ้าของมาแสดงตัวก็จะสอบสวนถึงสาเหตุที่วัวหลุดออกมาจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ และรับผิดชอบค่าเสียหายต่อไป