โลมาดำตัวใหญ่ ความยาว 3 เมตรว่ายเข้าฝั่ง อบต.เกาะกูด และกู้ภัย ช่วยผลักดันพบบาดเจ็บ แจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยชายฝั่งจ.ระยองช่วยเหลือ เตือนนักท่องเที่ยว-ชาวประมงห้ามทำร้าย นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่อ่าวบางเบ้า หน้าสยามบีชรีสอร์ท บ้างเบ้า ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่ามีปลาโลมาตัวขนาดใหญ่ว่ายวนไปมาที่หน้าอ่าวบางเบ้า จึงได้ประสานงานเจ้าหน้าที่และชาวประมง และนำเรือประมงขนาดเล็กออกไปตรวจสอบ พบ ปลาโลมาสีดำขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 3 เมตร ว่ายวนไปมาที่หน้าอ่าว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอยู่ จึงพยายามสกัดกั้น และผลักดันให้ออกไปจากอ่าวบางเบ้า แต่สุดท้ายก็ว่ายวนเวียนอยู่และเมื่อเข้ามาใกล้ กลับไม่ทำร้าย และสังเกตว่า บริเวณด้านหลังมีบาดเเผล คาดว่า จะได้รับบาดเจ็บ จึงได้ว่ายเข้ามาในอ่าวเพื่อขอความช่วยเหลือจากคน อย่างไรก็ตาม ปลาโลมาสีดำตัวดังกล่าวว่าได้หายไป ในบางช่วง แต่ก็ว่ายกลับมาอีกจนค่ำ ล่าสุด เมื่อเช้าวันนี้ (09.00 น.วันที่ 16 พฤศจิกายน 2562)ที่บริเวณอ่าวบางเบ้า เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยชายฝั่งทะเลที่ 1 จ.ระยอง ได้เดินทางไปที่อ่าวบางเบ้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอบต.เกาะกูด และทีมกู้ภัยเกาะกูด เพื่อตรวจสอบ แต่ในขณะนี้ยังไม่พบตัวปลาโลมาสีดำตัวนี้ นายเดชาธร กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ,เจ้าหน้าที่อบต.เกาะกูดที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยฯได้ออกมาติดตามแล้วแต่ยังไม่พบตัวปลาโลมาสีดำตัวนี้ แต่ประการได จึงได้แจ้งไปยังชาวประมงในเกาะกูด และนักท่องเที่ยวว่า หากพบปลาโลมาสีดำตัวนี้อย่าได้ไปทำร้ายหรือทำอะไร เนื่องจากอาจจะถูกทำร้ายได้ ซึ่งโดยทั่วไปปลาวาฬสีดำจะไม่ทำร้ายคน รวมทั้งขอให้สังเกตการณ์อยู่ห่างๆและขอให้แจ้งเพื่อจะทำการช่วยเหลือ ทั้งนี้ หากปลาโลมาสีดำไม่ได้รับบาดเจ็บก็อาจจะหลงทิศจึงว่ายเข้ามาดังที่เห็น “ที่ผ่านมาเกาะกูดพบฉลามวาฬ บ่อยครั้ง เพราะมาหากินตามแหล่งประการังที่มีรอบเกาะกูด และเป็นข่าวไปแล้ว เพราะบริเวณเกาะกูดมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง ส่วนปลาโลมาสีดำ ซึ่งไม่ใช่วาฬเพชรฆาตเหมือนชาวบ้านเกาะกูดเรียกกันจึงไม่น่ากลัวใแต่ห้ามไม่ให้ไปทำร้ายเขา”