เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 62 นายอัครเรศร์ ชูช่วย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด เผยว่า จากสถานการณ์การส่งออกของประเทศไทยที่มีปัญหา ทำให้โรงงานหลายแห่งปิดกิจการ แต่ยืนยันว่าโรงงานทั้ง 700 กว่าโรงงานในอมตะ ซิตี้ชลบุรี ยังคงเปิดกิจการอยู่ทุกสถานประกอบการ และไม่มีการหยุดงานชั่วคราวซึ่งได้ติดตามสถานการณ์ของลูกค้าที่อยู่ในอมตะ ซิตี้ชลบุรีอย่างใกล้ชิด โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เปราะบางมากที่สุดในช่วงนี้คืออุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งแต่เดิมประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ถึง 2 ล้าน แต่ปีนี้และปีหน้าจะมียอดขายไม่ถึง 2 ล้านคน ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์มีซัพพลายเชนที่เยอะมาก นายอัครเรศร์ กล่าวอีกว่า ธุรกิจของอมตะ มีนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยอยู่ 2 แห่งคือที่จังหวัดชลบุรี และที่จังหวัดระยอง ในขณะเดียวกันก็ได้ขยายนิคมอุตสาหกรรมไปในประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม ส่วนนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่มีแผนจะขยายต่อเฟสที่ 2 เป็นนิคม 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่จะมีลักษณะเป็น smart City การขายแรงงานไม่ใช่เป้าหมายหลักเนื่องจากค่าแรงสูงจึงต้องเน้นการ ตั้งนิคมสำหรับแรงงานทักษะสูง เพื่อคิดค้นสิ่งใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่า ด้าน นายจักรรัฐ เลิศโอภาส รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีสถานประกอบการไหนที่ปิดกิจการ ส่วนที่ปิดกิจการตามที่เป็นข่าวเป็นโรงงานที่อยู่นอกนิคมอุตสาหกรรมที่มีการขายกิจการหรือหยุดชั่วคราว โดยหวังว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นและมียอดสั่งซื้อจะกลับมาเปิดกิจการเปิดกิจการอีกครั้ง ซึ่งไม่มีใครทำนายได้ว่าจะเป็นเมื่อใด สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังรับผลกระทบหนักในขณะนี้คืออุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งมียอดขายลดลง 7% ส่วนสาเหตุที่ ทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวเป็นกันทั้งโลกไม่ได้เป็นเพียงแค่ประเทศไทยประเทศเดียวเท่านั้น "ทางออกในระยะยาวสำหรับเรื่องนี้คือการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้สูงขึ้นเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่"นายจักรรัฐกล่าว