สมาชิกวุฒิสภาลงพื้นที่แม่ฮ่องสอน รับฟังปัญหา พบปัญหาด้านการท่องเที่ยว การค้าชายแดน มีความจำกัดด้านการคมนาคม ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกินค่ามาตรฐานสูงเนื่องจากมีพื้นที่ป่าหนาแน่น และปัญหาที่ดินทำกินที่มีขอบเขตจำกัดเนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ บางหมู่บ้านถนนเข้าไม่ถึง และไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่สามารถปักเสาพาดสายผ่านเข้าไปในเขตป่าได้ จะเร่งนำข้อมูลพิจารณากลั่นกรองกฎหมายแก้ไขปัญหาต่อไป ในช่วงระหว่างวันที่ 14- 15 พ.ย 62 คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน นำโดย พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ รองประธานกรรมการสมาชิกวุฒิสภา คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษา กรรมการ จำนวน 17 คน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อพบปะส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวแม่ฮ่องสอน รับฟังความคิดเห็น ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย และร่วมผลักดันให้ความช่วยเหลือตามกรอบและอำนาจหน้าที่ที่สมาชิกวุฒิสภาพึงกระทำได้ โดยมีกำหนดการวันที่ 14 พ.ย ภาคเช้าประชุมหารือรับฟังความคิดเห็นกับหัวหน้าส่วนราชการที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในประเด็นที่สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาตร์ด้านสังคมและเศรษฐกิจ อาทิ ด้านการค้าชายแดน ด้านการท่องเที่ยว ด้านหมอกควันไฟป่า ตลอดจนรับฟังข้อคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับการบริหารราชการของจังหวัด องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำท้องถิ่น ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และภาคบ่ายพบปะประชาชนและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อรับฟังข้อมูลข้อคิดเห็นเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมในการลดความเหลื่อมล้ำในด้านที่ดินทำกิน ด้านการเกษตร และด้านสหกรณ์ออมทรัพย์ด้านการเกษตร ส่วนในที่ 15 พ.ย 62 คณะสมาชิกวุฒิสภาเดินทางไปศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่เขตอุทยานถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ และตามรอยชาติพันธุ์ พบกลุ่มชาวไทยภูเขาบ้านนาป่าแปกและชาวจีนยูนานบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ รองประธานกรรมการสมาชิกวุฒิสภาคนที่หนึ่ง กล่าวหลังจากลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเสร็จสิ้นทั้ง 2 วันแล้วว่า “ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ระบุอำนาจหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาต้องพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย กำกับการบริหารงานแผ่นดิน และที่สำคัญคือการติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ดังนั้นคณะกรรมจึงต้องลงพื้นที่เพื่อรับทราบความต้องการและปัญหาของประชาชนทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือ โดยการทำงานมีการแบ่งหน้าที่ว่าใครดูแลเรื่องอะไร ในการรับฟังข้อคิดเห็นจากส่วนราชการ เอกชน และประชาชนทุกภาคส่วน สำหรับแม่ฮ่องสอนพบปัญหามีหลายส่วนบางส่วนเป็นปัญหาภายในจังหวัด ซึ่งเป็นหน้าที่ผู้ว่าต้องแก้ไข ส่วนปัญหาที่เกินขอบเขตของผู้ว่า ทางคณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภารับไปเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาในกรอบที่ สามารถทำได้ พลเอกสกนธ์ รองประธานกรรมการสมาชิกวุฒิสภาคนที่หนึ่ง กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีปัญหาหลัก ๆ ได้แก่ ปัญหาการค้าชายแดนที่พยายามผลักดันช่องทางชายแดนห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม ให้สามารถค้าขายกับรัฐคะยาได้อย่างเป็นรูปธรรมถาวร ปัญหาการท่องเที่ยวที่กระจุกอยู่บางพื้นที่ไม่กระจายทั่วทั้งจังหวัดเพราะมีความจำกัดด้านการคมนาคม ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกินค่ามาตรฐานสูงเนื่องจากมีพื้นที่ป่าหนาแน่น และปัญหาที่ดินทำกินที่มีขอบเขตจำกัดเนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ บางหมู่บ้านถนนเข้าไม่ถึง และไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่สามารถปักเสาพาดสายผ่านเข้าไปในเขตป่าได้ ซึ่งปัญหาทั้งหลายเหล่านี้ทางวุฒิสภาจะร่วมแก้ไขให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้ ภายในกรอบวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี