"ประธาน ป.ป.ช.” เผย เน้นทำงานป้องกัน-ปลูกฝัง เป็นหัวใจหลักปราบโกง พร้อมปรับนโยบายให้สอดคล้องรธน. เตรียมเสนอรัฐบาลกำหนดให้ "จนท.สรรพากร – หน่วยงานตรวจสอบ" ต้องยื่นทรัพย์สินด้วย วันที่ 15 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ มีการจัดกิจกรรม “เหลียวหลัง แลหน้า 2 ทศวรรษ สำนักงาน ป.ป.ช.” โดยพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. แสดงวิสัยทัศน์ “2 ทศวรรษ สำนักงาน ป.ป.ช.สู่อนาคต” ตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทยมีทุจริตคอร์รัปชั่นมาก โดยดูจากคะแนนซีพีไอ ทำให้มีการสูญเสียงบประมาณ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐมีการทุจริตคอร์รัปชั่นไปนับแสนล้านบาท สังคมจึงเริ่มไม่ทน ไม่เฉย ถือเป็นสิ่งงดงาม ป.ป.ช.ทำงานเน้นการป้องกันและปลูกฝัง เพราะเป็นหัวใจของการนำพาไปสู่การปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบได้ โดยต้องอดทน เสียสละ ตื่นรู้ ตื่นตัว รัฐธรรมนูญกำหนดเรื่องการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบเอาไว้ ทำให้ ป.ป.ช.เองต้องมาปรับการทำงาน ปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้อง มีการกำหนดระยะเวลาในการทำคดีแต่ละเรื่องไว้ 2 ปี ขยายเวลาได้อีก 1 ปี ซึ่ง 4-5 ปีที่ผ่านมา ป.ป.ช.ทำงานเชิงรับ โดยรับเรื่องเข้ามามากกว่าที่ทำสำเร็จ ล่าสุดในปี 2562 มีเรื่องคงค้าง 14,532 เรื่อง เฉพาะในปี 2562 ได้รับเรื่องไว้ 10,568 เรื่อง ทำแล้วเสร็จ 7,248 เรื่อง และคงเหลือ 3,320 เรื่อง อีกทั้งกฎหมายยังกำหนดให้ ป.ป.ช.สามารถรับเรื่องกล่าวหาได้ถึงแม้ว่า เรื่องนั้นจะเกิดขึ้นมาแล้ว 10 ปี พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า ป.ป.ช.จะมีทรัพยากรจำกัด แต่เราจะทำให้ดีที่สุด 4-5 ปีที่ผ่านมาแม้จะมีปัญหาภายใน ทำให้ต้องปรับองค์กรตามกฎหมาย ปรับปรุงงานให้มีคุณภาพมากขึ้น และดำรงความเป็นธรรมไว้ให้มากที่สุด วันนี้ ป.ป.ช.พร้อมแล้ว แม้ว่า เราจะมีเจ้าหน้าที่ไต่สวน 700-800 คนทั่วประเทศ โดยวิสัยทัศน์ใน 2 ปีข้างหน้า จะมุ่งเคลียร์เรื่องเก่าให้หมด มุ่งทำเรื่องใหม่ ซึ่งหลังกฎหมายใหม่ประกาศใช้ เรารับเรื่องมาแล้วกว่า 800 เรื่อง และอีก 3 ปีต่อจากนั้น ป.ป.ช.จะเป็นองค์กรที่กระฉับกระเฉงมากขึ้น จะทำงานในเชิงรุก ส่วนเรื่องการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ถือเป็นอีกงานที่สำคัญ เราจะตรวจสอบตามระบบให้หมด เปิดเผยให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทช่วยตรวจสอบ ภายใต้กฎหมายใหม่นี้จะเป็นครั้งแรกที่ ป.ป.ช.จะกำหนดเวลาในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งจะได้มีประกาศสำนักงาน ป.ป.ช.ต่อไป นอกจากนี้ ป.ป.ช.กำลังจะทำเรื่องเสนอรัฐบาลในการกำหนดกลุ่มข้าราชการที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นกลุ่มแรก เช่น เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร หรือแม้แต่หน่วยงานอื่นที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนงานป้องกันถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจาก ป.ป.ช.มียุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องดึงภาคประชาชนเข้ามาร่วมในการไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย ทุกคนเริ่มตื่นตัวแล้วหันมาช่วยกันมากขึ้น อนาคตจะมุ่งเน้นไปในงานป้องกัน ประสานงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การทำงานของเราจะยึดหลักซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ ป.ป.ช.กำลังจะมีอายุครบ 20 ปีในไม่กี่วันนี้ กำลังจะพ้นจากความเป็นผู้เยาว์ ดังนั้น เราสัญญาว่าจะทำงานหนัก เพื่อเคลียร์เรื่องเก่าอย่างดีที่สุดด้วยความเป็นมืออาชีพ ตรงนี้ทำกัน 2 ปี แล้วอีก 3 ปีถัดไป จะทำงานเชิงรุก ภายใต้กฎหมาย ป.ป.ช. พร้อมกับปลูกฝังค่านิยม สร้างสังคมเพื่อไม่ทนต่อทุจริต มั่นใจว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ในวันที่ ป.ป.ช.ครบเบญจเพส ยืนยันและให้ความมั่นใจว่า ป.ป.ช.จะมีแต่เรื่องดีงาม จะเบญจเพสอย่างมั่นคง ขอให้ทุกคนอดทนรอและช่วยกัน