เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ ( 15 พ.ย. 62) ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผอ.รมน.ภาค 4, นายอิสระ ละอองสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต., นายชัยสิทธ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา, พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบ.ภ.9 ได้ติดตามความคืบหน้า คดีคนร้าย ใช้อาวุธปืนยิง จุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านทางลุ่ม ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา จังหวัดยะลา พร้อมร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติ ดังนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้ติดตามและเข้าปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ไม่ว่าจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง มีการเชื่อมโยงพยานหลักฐาน มีการประกอบกำลังเข้าปิดล้อมปฏิบัติการเชิงรุก ตรวจค้นเป้าหมาย จนนำไปสู่การออกหมายจับและเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง มีพยานหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ ซึ่งจะทำให้ทราบกลุ่ม และบุคคล ที่เข้ามากระทำความผิดได้ หลายรายการ จากการตรวจที่เกิดเหตุเชื่อว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 40 คน “จากหลักฐานในที่เกิดเหตุและผลตรวจปลอกกระสุนปืน ยิงมาจากอาวุธปืน จำนวน 25 กระบอก พบประวัติเคยก่อเหตุคดีความมั่นคงจำนวน 7 กระบอก ในพื้นที่ อ.เมือง อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา อ.ยะหา อ.กาบัง ของ จ.ยะลา , อ.เมือง อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง ของ จ.ปัตตานี , และ อ.เทพา ของ จ.สงขลา คดีที่สำคัญ เช่น คดีซุ่มยิง จนท.ทพ.ร้อย 4303 เสียชีวิต 2 นาย ในพื้นที่ อ.หนองจิก เมื่อ 11 ก.ย.61 สามารถรู้ตัวตนคนร้าย 12 ราย ยืนยันจาก DNA จำนวน 3 คน ซึ่งออกหมายจับ ป.วิอาญา ได้ดังนี้ 1.นายนัสรูเลาะห์ สะมะ ผู้ก่อความรุนแรงในพื้นที่ ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา 2.นายซะอุดี ติงอุเซ็ง อยู่ในชุดปฏิบัติการของ นายนอร์ดิน หะยีอาซา ผู้ก่อเหตุความรุนแรง ในพื้นที่ ต.ตาเนาะปูเตาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีหมายจับ 6 หมาย เคยถูกจับกุมเมื่อปี 2558 ศาลพิพากษายกฟ้อง ต่อมาได้ถูกออกหมายจับอีก 2 หมาย 3. นายอาดัม มุสอดี ผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.ยะหา/อ.กาบัง จว.ยะลา เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี ชคต.บาโระ , เผา สนง.การไฟฟ้ากาบัง ทั้งสามคนได้ออกหมายจับและประกาศสืบจับแล้วอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ส่วนเมื่อวันที่ 8 - 9 พ.ย.62 ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 11 คน ปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาแล้ว 6 คน” ผบ.ตร. กล่าว. ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุโศกนาถกรรมสังหารหมู่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้กรุณาสั่งการให้ทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ปรับแผนในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ โดยปรับรูปแบบการปฏิบัติของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเป็นแบบจรยุทธ์ไม่เป็นเวลาโดยไม่ให้อยู่ประจำที่ป้อม จัดชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็วส่งลงทางอากาศ ณ ที่หมาย และให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุโดยหน่วยเฉพาะกิจประจำพื้นที่ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงไปร่วมซักซ้อมร่วมปฏิบัติงาน โดยให้ระดับผู้บังคับบัญชาได้ติดตาม/ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขยายพื้นที่รับผิดชอบของกำลังทหารหลัก และกำลังทหารพรานให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ตลอดจนดำเนินการตามแผนพิทักษ์ประชาชน และทรัพยากรในหมู่บ้านเพื่อจำกัดเสรีผู้ก่อเหตุรุนแรง และปัญหายาเสพติด/ภัยแทรกซ้อนอื่นๆ และสร้างการรับรู้และกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านเวทีสภาสันติสุขทั้ง 290 ตำบล เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะการแก้ปัญหารวมทั้งการออกมาประกาศจุดยืนเพื่อต่อต้านและปฏิเสธการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขบวนการ BRN ในทุกรูปแบบ