เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 พ.ย. 62 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลุ่มตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ,เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ,เครือข่ายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนของชนเผ่าพื้นเมือง ,เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี ,เครือข่ายการจัดการสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง และสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน 6 องค์กรยื่นหนังสือขอให้พักราชการหรือสั่งให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกออกจากราชการไว้ก่อน หวั่นเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เปิดเผยคดีฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนน้ำชาวบ้านกะเหรียง บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ระบุว่า เมื่อได้พิจารณาพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ และได้มอบหมายพนักงานสอบสวน เดินทางไปยังศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับกุม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวก ได้แก่ นายบุญแทน บุษราศัม นายธนเสฏฐ์ หรือไพทูรย์ แช่มเทๆ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ รวม 4 คน โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติหมายจับแล้วในข้อหาจำนวน 5 ข้อหา เกี่ยวข้องอาชญากรรมที่ร้ายแรงต่อนายหอละซี รักจงเจริญ ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ภายหลังการถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ และหายไปเป็นเวลากว่า 5 ปี ซึ่งต่อมานายชัยวัฒน์ ลิ้มสิขิตอักษร และพวก ได้มอบตัวต่อพนักงานสอบสวน แสะศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้วคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของ ดีเอสไอนั้น องค์กรเครือข่ายตามรายนามท้ายแถลงการณ์นี้ ขอขอบคุณกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ตำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ทราบชะตากรรมของนายพอละจี รักจงเจริญ และสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถกล่าวหาและขอให้ศาลออกหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิมลิขิตอักษรและพวก ในข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังปราศจากเสรีภาพ ถึงแก่ความตาย มีอาวุธข่มขืนใจยอมจะให้ตนได้ประโยชน์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมร่วมกันปล้นทรัพย์และอำพรางคดีแก่ศพทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปอันเป็นความผิดทางอาญาและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรง จากการติดตามคดีนี้ นับตั้งแต่นายบิลลี่ถูกบังคับให้สูญหาย ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา การสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งเจ้าหน้าที่ในท้องที่และเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ประสบปัญหาและอุปสรรคตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขัดขวางและสร้างอุปสรรคจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯบางกุ่ม จนพนักงานสอบสวนของ ดีเอสไอ และภรรยาของบิลลี ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว ดังนั้นการให้ผู้ต้องหาในคดีนี้ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป อาจเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนคดีหรือทำให้ระบบราชการขาดความน่าเชื่อถือและองค์กรเครือข่าย ดังต่อไปนี้ 1.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม 2.เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย 3. เครือข่ายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนของชนเผ่าพื้นเมือง 4. เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี 5. เครือข่ายการจัดการสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง และ 6. สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน จึงขอเรียกร้องขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้มีอำนาจหน้าที่ ตำเนินการดังต่อไปนี้ 1. ขอเรียกร้องให้หน่วยงานต้นสังกัด คือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้พิจารณาและมีคำสั่งให้พักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อนกับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรและพวก ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน 2535 ประกอบกฎ กพ. ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2538 ข้อ 3 ที่ระบุว่า ข้าราชการพลเรือนที่ได้ถูกกล่าวหาหรือถูกฟ้องคดีอาญาหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เว้นแต่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ทั้งนี้เพราะแม้ปัจจุบันนายชัยวัฒน์ จะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่แก่งกระจาน อันเป็นพื้นที่เกิดเหตุ แต่ก็เป็นถึงผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) มีอำนาจในการสั่งการใดๆ ในทางที่อาจจะกระทบต่อการสอบสวนได้ และเพื่อป้องกันมิให้ใช้อิทธิพลในการแทรกแซงคดี และหากพบว่ามีกระทำผิดตามฟ้องของกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องถูกลงโทษทางวินัยและทางอาญาตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานราชการ 2.ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการปกป้อง คุ้มครอง และให้ความช่วยเหลือพยานโดยเฉพาะกับครอบครัวของบิลลี่ ให้พ้นจาการข่มขู่คุกคามจากอิทธิพลใดๆทั้งสิ้น และ 3.ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปโดยสุจริต เพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับการยื่นหนังสือดังกล่าวได้มีนายมนต์สังข์ ภู่ศิริวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี มาเป็นผู้รับมอบและส่งเรื่องตามลำดับชั้น เมื่อมีผลความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป