สนง.ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดฯ จัดโครงการธารน้ำใจท้องถิ่นไทยเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขังเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชาภิเษก จังหวัดอ่างทอง รุ่นที่ 3 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 น. ที่ เรือนจำจังหวัดอ่างทอง นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานใน "โครงการธารน้ำใจท้องถิ่นไทย เลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขัง ครั้งที่ 3 " เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จังหวัดอ่างทอง โดยมี นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมยศ พุ่มน้อย ปลัดจังหวัดอ่างทอง นายสมยศ โยธินกิจกุศล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง นายปริญญา เขมะชิต นายอำเภอวิเศษชัยชาญ นางสาวแสงมณี มีน้อย ท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมในโครงการ เพื่อเป็นการสนองพระบรมราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการรวมพลังจิตอาสาแสดงน้ำใจและสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ต้องขัง โดยกิจกรรมโครงการธารน้ำใจท้องถิ่นไทย มีการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากรุณาธิคุณ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขัง โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมการเข้าถึงโอกาส และได้รับการสงเคราะห์ด้านคุณภาพชีวิต รวมทั้งสุขภาพทางจิตใจให้แก่ผู้ต้องขัง เช่น จัดให้ให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ระลึกถึงความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นกำลังใจในการอยู่ร่วมกันในสังคม หลังจากออกจากเรือนจำหรือทัณฑสถาน และเป็นพลังในการช่วยเหลือสังคมต่อไป จากนั้นร่วมกันเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขังแบ่งเป็นหญิง236 คน ชาย 1,463 คน รวม ทั้งหมด 1,699 คน นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สำหรับโครงการธารน้ำใจท้องถิ่นไทย เลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขัง เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคุธรกิจ เอกชนและพี่น้องชาวจังหวัดอ่างทองร่วมกันจัดขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีราชาภิเษก โดยเป็นการรวมพลังจิตอาสาแสดงน้ำใจและสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ต้องขัง และเป็นกำลังใจในการอยู่ร่วมกันในสังคมหลังจากออกจากเรือนจำ เป็นพลังในการช่วยเหลือสังคมต่อไป