“...๑) มีทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง๒) มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง๓) มีคุณธรรมและ ๔) มีงานมีอาชีพสามารถเลี้ยงตนเองเลี้ยงครอบครวัได้และเป็นพลเมืองที่ดี...” พระบรมราโชบายด้านการศึกษามุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน๔ ด้านในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในการสร้างคนดีของบ้านเมือง การจัดการเรียนการสอนสายอาชีพในนามสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)มุ่งที่จะสร้างคนดีมีคุณธรรม มีจิตอาสาเสียสละ มีระเบียบวินัย มีความกตัญญู มีความรู้ความสามารถทักษะฝีมือด้านอาชีพต่างๆนำไปเป็นเครื่องมือรองรับสถานประกอบการ ตลาดแรงงานอุตสาหกรรมและเป็นส่วนหนึ่งในความเป็นคนไทยที่จะเป็นพลังสร้างเจริญงอกงามให้ประเทศชาติ โดยมุ่งสนองพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานหลักการสร้างพื้นฐานการศึกษา 4 ด้านด้วยทรงตั้งพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในการสร้างคนดีให้บ้านเมืองที่อัญเชิญไว้ข้างต้น ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่การศึกษาอย่างที่สุด มีรูปธรรมประจักษ์ชัดคือการจัดการเรียนการสอนทั้งสายสามัญ ควบคู่กับการให้นักเรียนนักศึกษาสายอาชีวะลงมือปฏิบัติจริงในสายอาชีพที่เรียน มีกระบวนการสอนที่ให้คิดโครงงานอันจะเป็นนวัตกรรมผลผลิตใหม่ที่สามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ จัดการเรียนการสอนโดยความร่วมมือกับสถานประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศให้นักเรียนนักศึกษาได้ไปทำอาชีพนั้นจริงๆในระบบทั้งที่เรียกทวิภาค โครงการแลกเปลี่ยน กระทั่งการจัดแข่งขันทักษะวิชาชีพ หรือโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน(FIX IT) นักเรียนนักศึกษาจะได้ลงมือทำจริง ได้ประสบการณ์กับการแก้ปัญหา แล้วที่ได้อย่างสำคัญอันจะติดตัวไปเป็นคนดีของบ้านเมืองคือการปลูกฝังให้หลอมสำนึกการทำงานร่วมกับคนอื่นที่จะต้องมีความรักกัน สามัคคีกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แบ่งปันกัน รู้จักให้อภัยกัน การปลูกฝังให้รู้จักเสียสละทำประโยชน์ให้คนอื่นโดยไม่หวังผลสิ่งตอบแทน การรู้จักรับผิดชอบ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า อันเป็นภาพลักษณ์คนดีที่สังคมต้องการฯลฯ โดยเฉพาะการได้ไปทำการฝึกจริงในสถานประกอบการยิ่งได้รับการอบรมบ่มนิสัยความเป็นคนดีอย่างเป็นระบบคือต้องฝึกความขยัน อดทน ความซื่อสัตย์ ความไม่โลภ ความมีเมตตาต่อกันซึ่งคุณสมบัติเช่นนี้สถานประกอบการทุกแห่งทั้งในประเทศหรือแม้แต่ต่างประเทศเน้นยิ่งนักต้องการยิ่งนัก อย่างกิจกรรมการแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง”ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 22 ที่ผ่านมาช่วงระหว่างวันที่11-12 พญย.62 ณ สนามแข่งจริงที่จังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งนักเรียนนักศึกษาอาชีวะทั่วประเทศทั้งวิทยาลัยรัฐและวิทยาลัยเอกชนเข้าร่วมเป็นกิจกรรมหนึ่งในการสร้างให้เกิดทักษะฝีมือและการปลูกฝังความดีงามให้เกิดในตัวเยาวชนเพื่อเติบโตเป็นคนดีมีความรู้ความสามารถ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ผนึกกำลังร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมจุดพลังฝันให้เด็กไทยที่กำลังศึกษาระดับอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษาเติบโตสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ คุณภาพด้วยทักษะฝีมือประสบการณ์ มีความรู้ทางวิชาการ มีความรับผิดชอบเอาใจใส่ ไม่ได้มุ่งแต่ผลประโยชน์ และยังตระหนักถึงการทำงานร่วมกับคนอื่นด้วยความรักเมตตาสามัคคี รู้จักให้อภัยกัน เพื่อนำไปปฏิบัติตนในการใช้ชีวิตประจำวัน ใช้ในการประกอบอาชีพไม่ว่าจะเป็นอาชีพส่วยตัวหรือเป็นกำลังในสถานประกอบการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นพลังพัฒนาชาติได้มีโอกาสปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมที่จะเติบโตเป็นกำลังที่ดีงามของบ้านเมืองผ่านการสานต่อกิจกรรมที่ดำเนินการมากว่า 2 ทศวรรษกับการแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage challenge ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 22 ประจำปี 2562 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดโอกาสให้เยาวชนทั้งที่กำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ได้แสดงความสามารถในการออกแบบและประดิษฐ์ยานพาหนะที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุด บนความท้าทาย “น้ำมันหนึ่งลิตร จะวิ่งได้ไกลแค่ไหน” ซึ่งเป็นรากฐานการจะเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมต่อไปโดยผู้ชนะยังได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติรายการ Honda Soichiro Cup ครั้งที่ 40 ในปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยกิจกรรมมีขึ้นเมื่อวันที่ 11และ12 พย. วันที่ 12 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายอรรถพล สังขวาสี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายจักรพงษ์ ภิญโญทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด, ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และคณะผู้บริหารจาก บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ร่วมเปิดกิจกรรม “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage challenge ครั้งที่ 22 อย่างเป็นทางการ โดยปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 440 ทีม หรือกว่า 2,200 คน จากทั่วประเทศ ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า การแข่งขัน ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง ภายใต้โครงการ “เอ.พี. ฮอนด้าจุดพลังฝัน” มีความตั้งใจสร้างเยาวชนไทย สู่การเป็นเยาวชนคุณภาพทั้งการตระหนักถึงความเป็นพลเมืองดีของสังคมและการมีความรู้ความสามารถทักษะวิชาชีพอันเป็นการสืบสานพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพัฒนาศักยภาพ ทางด้านทักษะวิศวกรรมยานยนต์ ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกรักษ์พลังงาน สำนึกรักษาสภาพแวดล้อมที่ดี ด้วยการส่งเสริมให้ผู้เข้าแข่งขันทำการออกแบบและประดิษฐ์ตัวรถแข่งด้วยตนเอง บนความท้าทายที่ว่า “น้ำมันหนึ่งลิตร จะวิ่งได้ไกลแค่ไหน” นอกจากประหยัดแล้วต้องคำนึงถึงการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย โดยให้ยึดหลักเดินตามแนวพระราชดำริปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรซึ่งกติกานี้จะทำให้ทุกทีมได้เรียนรู้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ทั้งเรื่องการดีไซน์รถตามหลักอากาศพลศาสตร์ การเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ รวมถึงการศึกษาการทำงานเชิงลึกของเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ไปจนถึงการวางแผนการวิ่งในสนาม “ ทั้งหมดนี้จะส่งผลดีในแง่ของการวิจัยและพัฒนา เกิดเป็นโนว์ฮาวใหม่ๆ ของแต่ละสถาบัน และจะทำให้เยาวชนได้พัฒนาความสามารถ และ เปิดโอกาสให้ได้รู้จักการทำงานเป็นทีม ซึ่งส่งผลดีต่อวงการอาชีวะและวิศวกรรมยานยนต์ของไทยในอนาคต โดยตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ดำเนินโครงการมา เราได้เห็นเยาวชนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์มาอย่างต่อเนื่องและได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถต่อไป”ดร.อารักษ์ พรประภากล่าว นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ดีใจและเป็นเกียรติยิ่ง ที่ได้เป็นจังหวัดศูนย์กลางของผู้เข้าแข่งขันจากทั่วประเทศ และขอขอบคุณทางสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ทำให้จังหวัดบุรีรัมย์มีสนามแข่งขันรถที่ได้มาตรฐานระดับโลก จึงได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าบ้านในครั้งนี้ รวมถึงทำให้เยาวชนที่มาแข่งขันในวันนี้ได้รับประสบการณ์ระดับโลก ณ สนามแห่งนี้อีกด้วย ก็ขอชื่นชมในความตั้งใจจริงของ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเยาวชนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานถึง 22 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ให้คณาจารย์ร่วมกับนักศึกษา เรียนรู้จากภาคปฏิบัตินอกหลักสูตร พัฒนาความรู้และทักษะในการคิดค้นและประดิษฐ์ยานยนต์ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ยังเป็นการแสดงออกซึ่งความคิดในเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงการฝึกฝนเพื่อให้เกิดพัฒนาการทางด้านความคิด พร้อมทั้งฝึกการทำงานเป็นทีม ที่จะถูกปลูกฝังสร้างจิตสำนึกที่ดีงามทั้งการรู้จักสามัคคีกัน เมตตารักใคร่รู้จักให้อภัยแบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลกันการได้รับปลูกฝังให้ตระหนักถึงด้านการอนุรักษ์พลังงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อม ที่เมื่อเติบโตขึ้นจะนำไปปฏิบัติเป็นแบบอย่างแก่รุ่นหลังต่อไปเพื่อประโยชน์แก่บ้านเมืองซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ดีในการตอบสนองนโยบายของภาครัฐได้อีกด้วย ด้านนายอรรถพล สังขวาสี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่ามีนักเรียน นิสิต นักศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง”เป็นจำนวนมากจากทั่วทุกจังหวัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเยาวชนได้ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์พลังงาน และการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม โดยการระดมสมองร่วมกันสร้างสรรค์ยานยนต์ประหยัดพลังงาน ได้มีการช่วยเหลือร่วมมือกันเพื่อก้าวไปสู่จุดหมายเดียวกัน ตลอดจนได้เรียนรู้จากสถานการณ์จริงในการทำงานร่วมกัน ได้แลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคซึ่งกันและกัน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงนี้ มีส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาบุคลากรทางด้านทักษะวิศวกรรมยานยนต์ ได้ต่อยอดการเรียนรู้ภายในห้องเรียนผสานความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นฐานการอนุรักษ์พลังงาน ก้าวสู่ภาคปฏิบัติบนสนามแข่งขันที่มีมาตรฐาน นับเป็นกิจกรรมที่ให้ประสบการณ์ล้ำค่าเป็นอย่างมากแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่จะประกันได้ว่าเมื่อเรียนจบแล้วมีงานทำ มีรายได้อย่างแน่นอน สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด ประเภทรถประดิษฐ์แบ่งเป็นกลุ่มย่อยตามสถานศึกษา 3 ระดับ คือ ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษา และ ระดับประชาชนทั่วไป และประเภทรถตลาด ก็เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแข่งขันได้เช่นกัน ผลการแข่งขันประเภทรถประดิษฐ์ทีม Black Dragon คว้าแชมป์ Honda Eco Mileage Challenge ครั้งที่ 22 ด้วยสถิติประหยัดน้ำมัน 4,133.76 กม.ต่อน้ำมัน 1 ลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 31.397 กม./ชม. พร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลรองชนะเลิศตกเป็นของทีม Genuine จาก วิทยาลัยเทคนิค สกลนคร วิ่งได้ 4,121.4230 กม./ลิตร ใช้ความเร็วเฉลี่ย 32.614 กม/ชม. โดยทั้งสองทีมนี้จะได้สิทธิเป็นตัวแทนเยาวชนไทยร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ The 40th Honda Soichiro Cup Honda Eco Mileage Challenge 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น รางวัลชนะเลิศ ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับอุดมศึกษา  อันดับ 1 ทีม “Challenger” หมายเลข 503 จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร วิ่งได้ 1,298.8490 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.582 กม./ชม.อันดับ 2 ทีม “ตะโกราย. 1” หมายเลข 534 จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา วิ่งได้ 1,138.2330 กม./ลิตร  ความเร็วเฉลี่ย 30.626 กม./ชม. รางวัลชนะเลิศ ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับประชาชนอันดับ 1 ทีม “Infernal deva” หมายเลข 606 จากร้าน ซ้งบริการ นครปฐม วิ่งได้ 1,120.6790 กม./ชม ความเร็วเฉลี่ย 31.126 กม./ชม.อันดับ 2 ทีม หมายเลข 605 “จารุเจริญยนต์ NMVC” จากร้าน จารุเจริญยนต์ นครปฐม วิ่งได้ 940.5150 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 32.113 กม./ชม. รางวัลชนะเลิศ ประเภทรถตลาดอันดับ 1 ทีม “Siec eco sport” หมายเลข 889 จาก วิทยาลัยการอาชีพ ศรีสัชนาลัย สุโขทัย วิ่งได้ 248.8480 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 31.234 กม./ชม.  อันดับ 2 ทีม “ผักกระเฉด@กบินทร์บุรี” หมายเลข 879 จาก วิทยาลัยการอาชีพ กบินทร์บุรี ปราจีนบุรี วิ่งได้ 220.6710 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 31.698 กม./ชม.  สามารถติดตาม และชมภาพบรรยกาศการแข่งขันเพิ่มเติมได้ที่www.hondaeconothai.com ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา เสกสรร สิทธาคม [email protected]