หลังมีข่าวชายรักชายในสเปนพบป่วยติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออก และเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในคิวบา กรมควบคุมโรคชี้ช่องทางหลักติดต่อของโรคไข้เลือดออกยังคงเป็นถูกยุงลายกัด นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวในต่างประเทศว่าพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกชาวสเปนติดเชื้อไวรัสโรคไข้เลือดออกผ่านการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า ได้ตรวจพบเชื้อไวรัสโรคไข้เลือดออกในอสุจิของทั้งผู้ป่วยและคู่นอนชาย ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่แพร่ระบาดในประเทศคิวบา ซึ่งทั้งคู่เคยไปมาก่อนหน้านี้ จึงเป็นไปได้ที่จะมีการติดเชื้อผ่านช่องทางการมีเพศสัมพันธ์ เช่นเดียวกับโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกัน ทั้งนี้ ควรต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลต่อไป ซึ่งในปัจจุบันไทยยังไม่เคยมีรายงานการติดเชื้อผ่านช่องทางดังกล่าวแต่อย่างใด สำหรับการติดต่อของโรคไข้เลือดออก ในช่องทางหลักยังเป็นการถูกยุงลายกัด ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัด ซึ่งจะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว อาจปวดท้อง หรือท้องเสียร่วมด้วย ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เพราะยาบางชนิด เช่น ไอบรูโปรเฟน หรือแอสไพริน อาจทำให้เลือดออกในอวัยวะภายในได้ง่ายขึ้น ถ้ามีไข้สูงนานเกินสองวัน ควรรีบไปรักษาที่โรงพยาบาล และช่วงไข้ลด ถ้าซึม เบื่ออาหาร ปวดท้อง กระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเร็วแต่เบา อาจมีเลือดไหลที่โพรงจมูก อาเจียนเป็นเลือด แสดงว่าเข้าสู่ภาวะช็อก ต้องรีบกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลให้ทันท่วงที เพราะอาจเสียชีวิตได้ นพ.อัษฎางค์กล่าวว่า การป้องกันโรคไข้เลือดออก ควรเน้นไปที่การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยขอให้ประชาชน ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เป็นกำลังหลักในระดับพื้นที่ที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับยุงลาย โดยสื่อสารให้ความรู้เรื่องภัยสุขภาพ ร่วมกับใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ดังนี้ 1.เก็บบ้านให้สะอาด 2.เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้านไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ได้ ทั้งนี้ อสม. และผู้ที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันสำรวจประเมินความเสี่ยงจากความหนาแน่นของลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ โดยได้เริ่มพัฒนาระบบรายงานแบบออนไลน์ ซึ่งนำมาใช้ในบางพื้นที่แล้ว และพร้อมจะขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ไปพร้อมกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร อสม. ตามนโนบายรัฐบาลและก.สาธารณสุข ซึ่งจะเพิ่มความรวดเร็วในการประเมินความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคในแต่ละพื้นที่ และจัดการแก้ปัญหาให้ทันเวลาได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดการกับยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคติดต่อนำโดยแมลง จะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422