นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Watana Muangsook ระบุว่า...
รัฐธรรมนูญมาตรา 129 วรรคแปดบัญญัติให้อัตราส่วนของกรรมาธิการสามัญของแต่ละพรรคต้องมีจำนวนใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจำนวน ส.ส. ของแต่ละพรรคการเมืองที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฏร ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญแต่ละคณะ ข้อบังคับการประชุมฯ ข้อ 93 วรรคสามกำหนดว่าจะต้องมีจำนวนตามหรือใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจำนวนสมาชิกของแต่ละพรรคการเมืองที่มีอยู่ในสภา ดังนั้น สิทธิในคณะกรรมาธิการและตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญแต่ละคณะจึงเป็นสิทธิของพรรคการเมืองที่ได้มาตามจำนวน ส.ส. ถือเป็นโควต้าของแต่ละพรรคที่ไม่ใช่ได้มาจากการลงมติในสภา ส.ส. หรือกรรมาธิการจึงไม่มีสิทธิที่จะใช้เสียงข้างมากเพื่อเปลี่ยนแปลงคณะกรรมาธิการที่พรรคใดพรรคหนึ่งได้สิทธิไปแล้วและไม่มีสิทธิจะใช้เสียงข้างมากเพื่อลงมติเปลี่ยนแปลงประธานคณะกรรมาธิการ เพราะเป็นตำแหน่งที่ได้มาพร้อมกับคณะกรรมาธิการสามัญตามสัดส่วน ส.ส. ของแต่ละพรรค ส่วนที่ประธานสภาผู้แทนราษฏรให้สัมภาษณ์กรณี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐเตรียมล่าลายชื่อปลดพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯ ว่าสามารถทำได้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมาธิการในชุดนั้นจึงคลาดเคลื่อน เพราะตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการเป็นสิทธิของแต่ละพรรคและการเสนอชื่อผู้เป็นประธานหรือเสนอชื่อคณะกรรมาธิการมิได้ใช้วิธีลงมติด้วยเสียงข้างมาก หากแต่ใช้วิธีขอผู้รับรองโดยไม่มีการลงมติจึงไม่อาจใช้เสียงข้างมากไปเปลี่ยนแปลงสิทธิของแต่ละพรรคที่ได้มาตามสัดส่วนได้ ต่างจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือตำแหน่งประธานสภาที่ได้มาโดยการลงมติด้วยเสียงข้างมากของ ส.ส. จึงอาจถูกเปลี่ยนแปลงด้วยเสียงข้างมากได้เช่นกัน