"เต้ มงคลกิตติ์ " เผย รวมกลุ่มเหลือ4 พรรค 7 คน เตรียมถกทิศทางซักฟอกจันทร์หน้า แนะนายกฯ ปรับ "อุตตม" ให้ "มิ่งขวัญ" แทน
วันที่ 14 พ.ย.ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ) และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวถึงการรวมตัวกันกับ 5 พรรคเล็ก ว่า ตอนนี้เหลือ 4 พรรค 7 คน เพราะนายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้ขอถอนตัวแล้ว ถือเป็นดุลพินิจ คงมีเยื่อใยกับกลุ่ม 10 พรรคเล็ก แต่เรื่องการแก้ไขพรบ.การศึกษาเรายังร่วมมือกันเหมือนเดิม
เมื่อถามว่าการตั้งกลุ่มถูกมองว่าอาจจะเป็นตัวแปรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เดิมตน นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท และนายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ได้ปรึกษาหารือกันมานาน ซึ่งตน และคุณชัชวาลล์รู้จักกันมา 10 ปีตั้งแต่เรียนยังไม่จบ ช่วยเหลือกันมาอและอยู่มูลนิธิเดียวกัน เพราะฉะนั้นอยู่ด้วยกันก่อนที่จะเป็นนักการเมือง คุณชัชวาลล์ถนัดแก้ไขยาเสพติด ส่วนตนจะถนัดการปราบปรามคอรัปชั่น และหาเงินเข้าประเทศ ส่วนพิเชษฐ จะหาเงินเข้าประเทศเหมือนกัน ส่วนดำรงพิเดชมีความสามารถในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลของป่าไม้ เราจึงมาจับมือกัน ซึ่งจะมีการหารือกันวันจันทร์ เวลา 12.00 น.ที่บ้านเตาปูนเริ่มจันทร์หน้า
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเหลือ 2 พรรคคือคุณชัชวาลล์ และนายดำรงค์ ส่วนตนและนายพิเชษฐ ยังเป็นฝ่ายค้านอิสระ ยังร่วมกันทำงานในสภาเหมือนเดิม ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงาน เราเป็นนักการเมืองเพื่อคานอำนาจทางการเมืองให้รัฐบาล ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน แต่ถ้ารัฐบาลไม่ทำจะไปยกมือฝืนความรู้สึกของประชาชนคงไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าอ้างประชาชน ส่วนนายกฯจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ เราทำหน้าที่ในฐานะส.ส.
"ท่านนายกฯทำดีจะกลัวอะไร แต่ถ้าทำไม่ดีอาจจะต้องกลัว เพราะมีหลายเรื่องที่จะตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล เมื่อวานป.ป.ช ก็ชี้มูลผู้บริหารด้วยก็อาจจะเฉัยดๆรัฐบาลบ้าง ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูล ส่วนผมกับนายพิเชษฐ์ไม่แน่ว่าจะขออภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ต้องหารือกันวันจันทร์ก่อน เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่ต้องกังวลถ้าสุจริตก็ชิวได้แต่ถ้าทุนน้อยก็ชิวไม่ได้เมื่อถามว่าเป็นการจัดตั้งกลุ่มเพื่อต่อรองผลประโยชน์หรือไม่นายมงคลกิตติ์กะว่าต้องดูว่า การเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจเท่าที่คุยกันอยู่อยากรู้ว่าข้อมูลอภิปรายเป็นใครบ้างเกี่ยวกับเรื่องอะไรถ้ามีข้อมูลก็พร้อมจะให้ข้อมูลฝ่ายค้านแต่ถ้าฝ่ายค้านไม่ครบถ้วนเราก็ชี้แจงแทนรัฐมนตรีได้แต่ว่าอาจจะไม่จริง เพราะฉะนั้นผมและนายพิเชษฐมีอิสระในการตัดสินใจ ส่วนคุณชัชวาลและนายดำรงค์แล้วแต่ท่าน ส่วนการตัดสินใจลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ งดออกเสียง หรือไม่เป็นดุลพินิจของแต่ละคน แต่ต้องดูข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจน ถ้าหลักฐานชัดเจนต่อให้เป็นฝ่ายรัฐบาลด้วยกันก็คงไม่สามารถยกมือให้ได้"นาย มงคลกิตติ์ กล่าว และการตั้งกลุ่มจะตลอดไปหรือไม่ปีหน้าค่อยมาว่ากันแต่ตอนนี้เรารวมกลุ่มกัน 4 พรรค 7 เสียง
นายมงคลกิตติ์ กล่าวเสนอให้นายกฯ ปรับครมด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะนายอุตตม สาวนานนท์ รมว. คลัง ออก แล้วให้นายมิ่งขวัญแสงสุวรรณส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้ามาเป็นแทน
ด้านนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า การรวมตัวของพรรคเล็กเป็นสิ่งที่ดีสามารถที่จะตรวจสอบได้รัฐบาล และเป็นการรวมตัวเพื่อสร้างสรรค์ ไม่จ้องล้มรัฐบาล หรือต่อรองตำแหน่ง นายชัชวาลล์กับดำรงค์ เป็นรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ตนกับนายมงคลกิตติ์ถอนตัวจากรัฐบาล แต่หลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ตนก็สนับสนุน เพราะการบริหารประเทศของรัฐบาลมา 5 เดือนไม่ได้สมบูรณ์หมด ตนคืดว่าการตรวจสอบรัฐบาลเป็นการช่วยรัฐบาลในการกลั่นกรองด้วยซ้ำ เพื่อให้นายกฯปรับรัฐมนตรีเข้ามาทำงานให้เกิดประโยชน์ เพราะตนดูออกว่าใครควรจะอยู่หรือไม่อยู่
