ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.ภูมิทัศ ปิติจิระนน สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.หญิง กัญจิรา นรสาร, และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวัชรพล สังข์ทอง อายุ 36 ปี ชาวจ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 142/2562 ลง 12 ก.ย. 2562 ข้อหา ยักยอก นายสิทธิพงษ์ บุญประกอบ อายุ 38 ปี ชาว จ.ชลบุรี น.ส.สุทาวัน มหานาม อายุ 43 ปี ชาว จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อต่างๆจำนวนรวม 8 คัน โดยจับกุมนายวัชรพล ได้ที่หน้าบ้านเลข 22/24 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี ส่วน นายสิทธิพงษ์และน.ส.สุทาวัน ถูกจับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางตำรวจกองปราบได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 16 คน จากหลายพื้นที่ ทั้ง กทม.และปริมณฑล ว่าถูก นายวัชรพล หลอกทำทีมาติดต่อขอเช่ารถยนต์และหลอกขอซื้อดาวน์รถต่อจากผู้เสียหาย โดยอ้างว่าจะดำเนินการเปลี่ยนสัญญาและจะผ่อนชำระค่างวดต่อ แต่เมื่อได้รถไปแล้วนายวัชรพลนำรถหนีหายไป ที่ผ่านมามีผู้เสียหายถูกนายวัชรพล หลอกเชิดรถไปแล้วจำนวน 18 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า18 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังรับเรื่องทางกองปราบได้สัง่การให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่ามีรถยนต์ของผู้เสียหายจำนวน 3 คัน ถูกจอดติดป้ายประกาศขายอยู่ที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ กระทั่งพบนายสิทธิพงษ์และน.ส.สุทาวัน แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองและเป็นผู้ขายรถ จึงได้ทำการจับกุมตัวดังกล่าว พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 2 คนแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขยายผลต่อเนื่องไปทำการจับกุมตัว นายวัชรพล ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมกับนำหมายศาลเข้าตรวจค้นเต็นท์รถ จำนวน 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.บ้านบึง และ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าน่าจะถูกใช้เป็นสถานที่เก็บรถที่ได้มาจากการก่อเหตุ โดยจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัยไม่มีเอกสารการครอบครองจำนวน 5 คัน จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ ว่าได้มีการหลอกลวงซื้อดาวน์และเช่ารถ จากผู้เสียหายเพื่อนำไปขายต่อจริง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับแก่ นายวัชรพล ก่อนนำตัวส่ง สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส่วนนายสิทธิพงษ์และน.ส.สุทาวัน เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันยักยอกทรัพย์ หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า อยากฝากเตือนประชาชนว่าการทำสัญญาโอนลอยกรรมสิทธิ์ หรือทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กันเอง ไม่สามารถกระทำได้ เพราะตามกฎหมายผู้เช่าซื้อมีสิทธิในการครอบครองและใช้งานเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง จนกว่าจะชำระเงินครบตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่มีสิทธิในการโอน หรือขายรถให้ผู้อื่น ถ้าหากขายดาวน์ หรือโอนรถให้ผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท ไฟแนนซ์ อาจตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เสียเองด้วย ดังนั้นหากท่านมีความต้องการที่จะขายดาวน์รถมือสอง ควรพาผู้ที่ซื้อไปทำการเปลี่ยนคู่สัญญากับไฟแนนซ์ให้ถูกต้องเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคน