นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า ทั้งๆ ที่เป็นการให้การของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในชั้นศาล เรื่องบันทึกการประชุมนบข.ที่ระบุชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการให้คำนวณค่าเสียหายโดยไม่ต้องคำนึงถึงความยุติธรรม ซึ่งตุลาการจะใช้ดุลยพินิจ แต่โฆษกรัฐบาลกลับตอบโต้เป็นประเด็นการเมือง ตนขอให้สติในฐานะที่เคยเป็นโฆษกรัฐบาลมาก่อนว่า คนระดับอดีตนายกฯ พูดในศาลต้องประกอบด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริง ทั้งนี้ การกล่าวอ้างว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์บิดเบือนนั้น ก็ขอให้รัฐบาลโชว์หลักฐานบันทึกการประชุมฉบับนั้นออกมา กล้าหรือเปล่า ประชาชนจะได้รับรู้ว่าระหว่างชายในเครื่องแบบกับหญิงผู้ถูกยึดอำนาจนั้น ใครกันแน่ที่พูดโกหก กลับกลอก เอาแต่ได้ นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนที่มีอำนาจสูงสุดจะดำเนินการกับคู่กรณีทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงความยุติธรรมไม่ได้ และถ้าพล.อ.ประยุทธ์สั่งการไปอย่างนั้นก็ถือเป็นนโยบาย ข้าราชการที่ไหนจะกล้าขัด ในที่สุดความยุติธรรมซึ่งควรเป็นหลักใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องเล็ก การใช้อำนาจแบบนี้จะนำประเทศออกจากความขัดแย้งได้อย่างไร ทั้งนี้ แม้จะอ้างว่าเป็นคำพูดของคนอื่น แต่นายกฯ นั่งเป็นประธานในที่ประชุม กลับไม่ทักท้วง ก็ถือว่าเห็นด้วย แก้ตัวอย่างไรก็ไม่หลุด แทนที่จะให้โฆษกรัฐบาลมาเถียงข้างๆ คูๆ แบบนี้ ควรยืดอกรับแบบลูกผู้ชายเสียดีกว่า "ผมเชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีความเป็นลูกผู้หญิงพอที่จะสู้คดีจนถึงที่สุด แต่กังวลว่าบางคนจะมีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะให้ความเป็นธรรมหรือไม่ ยืนยันว่าการดำเนินการทุกเรื่องของรัฐต้องมีความยุติธรรมเป็นพื้นฐาน ถ้าไม่มีตรงนี้จะไม่เรียกว่าเป็นภารกิจของรัฐ แต่ต้องเรียกว่าเป็นการรุมทำร้าย นี่ไม่ใช่ชะตากรรมส่วนตัวของอดีตนายกฯ แต่ความอยุติธรรมคือชะตากรรมของประเทศ การคำนวณค่าเสียหายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินคดี รัฐบาลช่วยอธิบายหน่อยว่าในคดีอะไรก็ตาม มีขั้นตอนไหนบ้างที่ไม่ต้องคำนึงถึงความยุติธรรม เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศกำลังรอฟัง" นายณัฐวุฒิ กล่าว