“PRM”กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 832.9 ล้านบาท เติบโต 43.35% และมีรายได้รวม 3,846.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.82% หลังผลงานไตรมาส 3/62 ร้อนแรงต่อเนื่อง จากศักยภาพการดำเนินงานที่มีความแข็งแกร่งจากพอร์ตกองเรือที่ให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท กำหนดวัน Record Date 28 พ.ย. และจ่ายปันผลระหว่างกาลในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ขณะที่ภาพรวมทั้งปีตอกย้ำธีม Growth Mode ดันโตแบบก้าวกระโดด นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (PRM) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.62) บริษัทมีรายได้รวม 3,846.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.82% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 832.9 ล้านบาท เติบโต 43.35% เทียบกับงวดเดียวกันปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/62 (ก.ค.-ก.ย.62) เติบโตอย่างโดดเด่น มีรายได้รวม 1,389.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 288.7 ล้านบาท เติบโต 25.74% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจจากการมีพอร์ตกองเรือรวม 45 ลำ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี สำหรับกลุ่มเรือ FSU และกลุ่มเรือขนส่งภายในประเทศเติบโตโดดเด่น ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นใน Big Sea ผู้ให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 2 ของประเทศ เป็น 80% ทำให้รับรู้รายได้และกำไรจากการดำเนินงานมากขึ้น ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในการให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 1 ของประเทศ โดยความสำเร็จดังกล่าวจากผลการดำเนินงานที่ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.62 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท หรือคิดเป็นจำนวน 150 ล้านบาท โดยจ่ายจากส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งผู้ได้รับเงินปันผลจะไม่ได้รับเครดิตภาษีในส่วนนี้ ซึ่งบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 28 พ.ย.62 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 12 ธ.ค.62 ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ประเมินว่ากลุ่มธุรกิจเรือ FSU จะมีอัตราการใช้บริการในการกักเก็บน้ำมันเพื่อผสมน้ำมันเตากำมะถันต่ำเต็ม 100% และกลุ่มเรือขนส่งภายในประเทศยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศที่ได้รับประโยชน์จากอัตราค่าบริการที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในปี 2562 ที่มีโอกาสทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี จึงเป็นการตอกย้ำปีทองของ RPM ภายใต้ธีม Growth Mode ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารที่ดีกว่าแผนที่วางไว้