เมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป. พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป. ร.ต.อ.ณรงเวทย์ จิวเดช ร.ต.อ.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ ร.ต.อ.ยุทธพงศ์ อมรมงคลศิลป์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายชานนท์ กมลภา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 5 ต.นาขาม ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ 237/2562 ลง 7 พ.ย.62 และนายศิริชัย ชนะสงคราม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 9 ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ 235/2562 ลง 7 พ.ย.62 ซึ่งต้องหาว่า“กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,พาบุคคลอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม,โดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน พ.ค.62 นายชานนท์ฯ และนายศิริชัยฯ และนายชัยณรงค์ฯ ผู้ต้องหาที่หลบหนี โดยให้นายศิริชัยฯ ไปติดต่อล่อลวงเด็กหญิงเอ(นามสมมุติ)อายุ 13 ปี ส่วนตัวนายชานนท์ฯและนายชัยณรงค์ฯได้รออยู่ที่เถียงนา ต่อมานายศิริชัยฯ ซึ่งรู้จักกับตัวเด็กหญิงเออายุ 13 ปี ได้โทรนัดแนะให้เด็กหญิงเอ ออกมาหาบริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านแล้วได้ขับขี่รถจยย.พาตัวเด็กหญิงเอไปยังเถียงนาซึ่งมีนายชัยณรงค์ฯและนายชานนท์ฯ ผู้ต้องหารออยู่แล้วจากนั้นได้นั่งดื่มกินสุรากันบนเถียงนา โดยนายศิริชัยฯ ได้กอดจูบลูบคลำตัวเด็กหญิงเออยู่บริเวณบนเถียงนา จากนั้นนายชัยณรงค์ฯ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีได้พาเด็กหญิงเอไปที่บ้านของตนเองและได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเอหลายครั้ง จากนั้นนายชัยณรงค์ฯ ได้พาเด็กหญิงเอไปส่งยังกระท่อมในสวนยางของอานายชานนท์ฯ จากนั้นนายชานนท์ฯ ได้ลงมือข่มขืนเด็กหญิงเอไปหนึ่งครั้ง แล้วได้พาเด็กหญิงเอไปส่งบริเวณริมถนนใกล้ๆ กับกระท่อมแล้วได้หลบหนีไปพอเรื่องแดงกลุ่มของผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากพื้นที่
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับน้องชายที่ หมู่ 1 ต.ทับกวาง อ.ก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้เข้าจับกุมตัวนายชานนท์ฯ ผู้ต้องหา อยู่บริเวณหน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 1 จ.สระบุรี จึงจับกุมตัว ส่วนนายศิริชัย ชนะสงคราม ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพก่อสร้างอยู่แถวนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต.มาบตาพุต อ.เมือง จ.ระยอง ขณะยืนอยู่บริเวณริมถนนไอ-1 ในบริเวณนิคมมาบตาพุด จึงได้ร่วมกันแสดงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการซักถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน พ.ค.62 นายชานนท์ฯ และนายศิริชัยฯ และนายชัยณรงค์ฯ ผู้ต้องหาที่หลบหนี โดยให้นายศิริชัยฯ ไปติดต่อล่อลวงเด็กหญิงเอ(นามสมมุติ)อายุ 13 ปี ส่วนตัวนายชานนท์ฯและนายชัยณรงค์ฯได้รออยู่ที่เถียงนา ต่อมานายศิริชัยฯ ซึ่งรู้จักกับตัวเด็กหญิงเออายุ 13 ปี ได้โทรนัดแนะให้เด็กหญิงเอ ออกมาหาบริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านแล้วได้ขับขี่รถจยย.พาตัวเด็กหญิงเอไปยังเถียงนาซึ่งมีนายชัยณรงค์ฯและนายชานนท์ฯ ผู้ต้องหารออยู่แล้วจากนั้นได้นั่งดื่มกินสุรากันบนเถียงนา โดยนายศิริชัยฯ ได้กอดจูบลูบคลำตัวเด็กหญิงเออยู่บริเวณบนเถียงนา จากนั้นนายชัยณรงค์ฯ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีได้พาเด็กหญิงเอไปที่บ้านของตนเองและได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเอหลายครั้ง จากนั้นนายชัยณรงค์ฯ ได้พาเด็กหญิงเอไปส่งยังกระท่อมในสวนยางของอานายชานนท์ฯ จากนั้นนายชานนท์ฯ ได้ลงมือข่มขืนเด็กหญิงเอไปหนึ่งครั้ง แล้วได้พาเด็กหญิงเอไปส่งบริเวณริมถนนใกล้ๆ กับกระท่อมแล้วได้หลบหนีไปพอเรื่องแดงกลุ่มของผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากพื้นที่
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับน้องชายที่ หมู่ 1 ต.ทับกวาง อ.ก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้เข้าจับกุมตัวนายชานนท์ฯ ผู้ต้องหา อยู่บริเวณหน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 1 จ.สระบุรี จึงจับกุมตัว ส่วนนายศิริชัย ชนะสงคราม ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพก่อสร้างอยู่แถวนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต.มาบตาพุต อ.เมือง จ.ระยอง ขณะยืนอยู่บริเวณริมถนนไอ-1 ในบริเวณนิคมมาบตาพุด จึงได้ร่วมกันแสดงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการซักถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา