“ออลล์” ประกาศงานผลงานไตรมาส3/62 กำไรสุทธิสูงสุด 20% พร้อมเดินแผนปี63 รุกขยายพอร์ตแนวราบเพิ่มเป็น10% นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ALL เปิดเผยว่า จากความเข้าใจและความพร้อมในการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับทุกสภาวการณ์และภาวะเศรษฐกิจมาโดยตลอด ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้า ประกอบกับการเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจริง ในระดับราคาขายที่เหมาะสม ทำให้ทุกๆ โครงการมีกระแสตอบรับที่ดี ส่งผลภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงาน ทั้งรายได้ - กำไรสุทธิ และยอดขาย ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม ที่ 647 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 466 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิประมาณ 20% โดยมีปัจจัยหลักมากจากการส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์ 2,031 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์งวดเดียวกันของปีก่อนที่ 1,399 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่มีกำหนดการแล้วเสร็จ และเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 ของ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ ดิ เอ็กเซล คูคต มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท โครงการ ไรส์ พระราม 9 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท และ โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว – นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท "ไตรมาส 3/2562 บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) รวมมูลค่ากว่า 11,400 ล้านบาท ทั้งนี้ Backlog ทั้งหมด แบ่งเป็น จากโครงการทาวน์โฮม จำนวน 300 ล้านบาท Backlog จากโครงการประเภท High Rise จำนวน 3,400 ล้านบาท และ Backlog จากโครงการประเภท Low Rise จำนวน 7,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 2 - 3 ปีข้างหน้า (2562 - 2565) ทำให้บริษัทฯ มั่นใจผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีจากนี้ (2563 - 2565) จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการทยอยรับรู้ Backlog ดังกล่าว” นายธนากร กล่าว ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีมีรายได้รวมที่ 2,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,602 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 213 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิประมาณ 15% สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 2,031 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ 1,399 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่มีกำหนดการแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 9 เดือนแรกอยู่ที่ 36% และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 15% ขณะที่ยอดขายในช่วง 9 เดือนแรก อยู่ที่ 6,500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2562 ที่ 7,000 ล้านบาท โดยโครงการที่ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายเป็นไปตามเป้าในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วยโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโครงการที่มีการเปิดขายในปี 2562 ได้แก่ 1. โครงการ ดิ เอ็กเซล ลาดพร้าว – สุทธิสาร 2. โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว – นวมินทร์ และ 3. โครงการ อิมเพรสชั่น เอกมัย ซึ่งทุกๆ โครงการได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง สำหรับช่วงไตรมาส 4 ของปี เชื่อว่าภาพรวมจะปรับตัวดีขึ้นเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาฯ รวมถึงยังมีจากปัจจัยบวกต่างๆเกิดขึ้น ได้แก่ รัฐบาลได้ออกมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายในการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% ของราคาประเมิน และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ส่งผลให้ธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยดังกล่าว ในด้านอัตราการผ่อนชำระต่องวดของผู้กู้ที่อยู่อาศัยที่ลดลง และจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงานและกลยุทธ์ที่บริษัทฯตั้งเป้าคาดจะทำให้รายได้รวมในปีนี้ตามเป้าหมาย 4,500 ล้านบาท ขณะที่แผนงานในปี2563 เบื้องต้นจะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียม Low Rise จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) และจะเปิดตัวโครงการแนวราบมากขึ้น เจาะทุกเซกเมนต์ ทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, และทาวน์โฮม ระดับราคาเริ่มต้นไม่เกิน 3 ล้าน สูงสุดประมาณ 4 ล้านบาท หวังเพิ่มพอร์ตโครงการแนวราบจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% และจะขยับเป็น 20% ในปี 2564 พร้อมวางงบซื้อที่ดินไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทมากขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ เป็น 10% ภายใน3(2562-2565) โดยโครงการแรกที่จะสร้างรายได้ประจำเข้ามา คือ อาคารศูนย์การค้า The New Forum Plaza ชลบุรี ซึ่งจะปรับปรุงแล้วเสร๊จ และเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ไตรมาส2ปี 2563 โดยขณะนี้มีผู้เช่าจำนวน 90%แล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างรายได้เฉลี่ยให้บริษัทประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี