ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันนี้(13พ.ย.)ดัชนีปิดที่ 1,619.26 จุด ลดลง 6.94 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 25,919.42 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,627.45 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,616.73 จุด นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ผิดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนยังไม่มีความชัดเจน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯกล่าวในการประชุม Economic Club of New York ในทำนองว่าสหรัฐฯจะยังเดินหน้าปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหากไม่มีการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกัน ขณะที่ตลาดบ้านเราช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิบ้าง และมีการทำ Long ในตลาดฟิวเจอร์สด้วย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีการย้ายเงินลงทุนเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เห็นได้จากหุ้นในกลุ่มแบงก์,ปิโตรเคมี และพลังงานเริ่มกลับมา แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ โดยให้ติดตามช่วงโค้งสุดท้ายของการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน พร้อมให้แนวรับ 1,617 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ ACE มูลค่าการซื้อขาย 4,332.63 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท,CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,105.39 ล้านบาท ปิดที่ 79.00 บาท ลดลง 1.00 บาท,BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,045.30 ล้านบาท ปิดที่ 51.50 บาท ลดลง 1.25 บาท ,AOT มูลค่าการซื้อขาย 970.06 ล้านบาท ปิดที่ 78.25 บาท ลดลง 1.25 บาท,BDMS มูลค่าการซื้อขาย 950.60 ล้านบาท ปิดที่ 23.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท