ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 11 พ.ย. 2562 ร.ต.อ.ชัยรัตน์ จันทร์อนันต์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนถนนสายกาญจนบุรี-อู่ทอง หมู่ 13 ต.ปากแพรก อ.เมืองฯ ก่อนถึงที่ทำการสำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 8 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหหลังรับแจ้ง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กู้ชีพของมูลนิธิฯ กำลังทำการช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย ส่ง รพ.พหลพลพยุหเสนา ส่วนอีก 1 รายเป็นหญิงสาวนอนอยู่ในสภาพกะโหลกศีรษะแตกนอนหายใจรวยรินเลือดไหลออกปากออกจมูกรอการช่วย้หลืออยู่ อาการสาหัสมาก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฯ จึงรีบทำการ CPR ปั้มหัวใจ เนื่องจากสัญญาณชีพอ่อนมาก ซึ่งในที่สุดหญิงสาวเหยื่อเคราะห์ร้ายคนดังกล่าว ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจตายในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌฟ- 9911 กรุงเทพมหานครฯ จอดอยู่กลางถนน ในสภาพด้านหน้ารถพุ่งชนอัดติดอยู่กับท้ายรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน บย- 6140 กาญจนบุรี เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำนางสุนทรีย์ นวกวงศ์ อายุ 37 ปี ซึ่งนั่งข้างคนขับรถยนต์กระบะคันที่ถูกชนท้าย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามีซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวรวม7คน ได้เดินทางไปขายปลาปล่อย อยู่ที่บริเวณถนนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี เมื่อขายปลาเสร็จ จึงได้เดินทางกลับบ้าน โดยมีสามีตนเป็นคนขับ ตนนั่งเบาะหน้าข้างสามี ส่วนลูกๆ และญาติ รวม 5 คน นั่งอยู่ที่กระบะท้าย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนจะถึงบ้านของตนประมาณ 800 เมตร จู่ๆ ก็มีรถยนต์คู่กรณี ขับตามมาทางด้านหลังด้วยความเร็วสูง พุ่งเข้าชนท้ายรถของตนอย่างจัง ทำให้ลูกๆ และฯาติที่นั่งมาในกระบะท้าย กระเด็นตกจากรถทั้ง 5 คน ส่วนรถของตนก็ถูกแรงกระแทกกระเด็นไปไกลเกือบ 50 เมตร จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว จากการสอบสวนปากคำหญิงสาวซึ่งเป็นคนขับรถเฟอร์จูนเนอร์ คันก่อเหตุที่พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ทำให้ตนมองไม่เห็นรถกระบะคู่กรณีที่ขับอยู่ด้านหน้า ทำให้ขับรถพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญตัวสาวโชเฟอร์ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป