นายเกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือมิชลิน ไกด์ทั่วโลก กล่าวว่า ในปีนี้ กระแสการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นของไทยมาแรง ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลผลิตในท้องถิ่นมีความหลากหลายและมีคุณภาพมาตรฐานสูง นอกจากนี้อาหารไทยแบบดั้งเดิมยังโดดเด่น เพราะปีนี้มีร้านอาหารไทยแบบดั้งเดิมคว้า 2 ดาวมิชลินเป็นครั้งแรกของโลกพร้อมกันถึง 2 ร้าน โดยทั้งคู่ต่างเลื่อนระดับมาจากร้าน 1 ดาวมิชลิน สำหรับ ร้านอาหารไทยดั้งเดิม 2 ร้าน ที่สร้างชื่อด้วยการเลื่อนระดับจาก 1 ดาวมาครองรางวัล 2 ดาวมิชลินในครั้งนี้ คือ ร้าน R-Haan ที่นำเสนออาหารไทยสไตล์ต้นตำรับ ทั้งอาหารท้องถิ่นพื้นบ้านและอาหารชาววัง โดยใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศ และร้าน ศรณ์ ที่คืนชีวิตให้แก่ศิลปะแห่งอาหารใต้ที่เคยสูญหายไปตามกาลเวลา โดยใช้วัตถุดิบจากกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรและชาวประมงผ่านการปรุงด้วยความรักและความใส่ใจอย่างละเมียดละไมในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ ร้านระดับ 2 ดาวมิชลินในปีก่อน ซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจอยู่จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ Le Normandie (เลอ นอร์มังดี) Mezzaluna (เมซซาลูน่า) และ Suhring ยังคงรักษาสถานะดาวมิชลินเอาไว้ได้ อีกทั้งในบรรดาร้านอาหารที่ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินประจำปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 24 ร้าน ร้าน Khao (ข้าว) ซึ่งนำเสนออาหารไทยดั้งเดิมที่ปรุงขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่น เป็นเพียงร้านเดียวที่เลื่อนระดับมาจากรางวัล มิชลิน เพลท(MICHELIN Plate) นอกจากนี้ ยังมีร้านที่ติดอับดับในคู่มือมิชลิน ไกด์ ครั้งแรกแต่สามารถคว้า 1 ดาวมิชลินไปครองจำนวน 3 ร้าน ได้แก่ Chef’s Table ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง รังสรรค์เมนู โดยเชฟที่มาจากร้านระดับ 3 ดาวมิชลิน 80/20 ร้านอาหารไทยร่วมสมัยเชิงนวัตกรรมที่รังสรรค์เมนูอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นหายากผสานกับเทคนิคในการปรุงใหม่ๆ แบบสากล และ Table 38 (เทเบิ้ล 38) ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ที่เชฟเป็นผู้กำหนดเมนูและมีที่นั่งจำกัด นำเสนออาหารไทยโบราณและอาหารสไตล์ร้านริมทางที่ได้รับการตีความใหม่ พร้อมปรุงแต่งด้วยวิธีการสมัยใหม่แต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ ร้านระดับ 1 ดาวมิชลินในปีก่อนซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจอยู่จนถึงปัจจุบันต่างสามารถรักษาสถานะดาวมิชลินเอาไว้ได้ รวมถึง PRU (พรุ) ร้านอาหารแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินด้วย ขณะที่ ร้านอาหารที่ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ มีจำนวนทั้งสิ้น 94 ร้าน โดยในจำนวนนี้เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 61 ร้าน เชียงใหม่ 17 ร้าน ภูเก็ต 14 ร้าน และพังงา 2 ร้าน สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นปีแรกที่มิชลิน ไกด์เข้าไปดำเนินการคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารและที่พัก พบว่ามีจำนวนร้านที่ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ สูงเป็นพิเศษ ร้านเหล่านี้ ได้แก่ Ginger Farm Kitchen (จินเจอร์ฟาร์มคิชเช่น) ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารเหนือเป็นพิเศษ ใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพจากฟาร์มของร้านเองภายใต้แนวคิดฟาร์ม-ทู-เทเบิล (Farm-to-Table) เฮือนสุนทรี ที่รังสรรค์เมนูต้นตำรับจากวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสูงจนเป็นที่เลื่องชื่อและดึงดูดลูกค้าอย่างไม่ขาดสาย และข้าวซอยแม่มณี ร้านอาหารริมทางที่มีข้าวซอย หรือเส้นหมี่ไข่สีเหลืองทองในน้ำซุปเข้มข้น เป็นเมนูเด็ดที่ชนะใจลูกค้าต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี ทั้งนี้ จำนวนร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกและจัดอันดับในคู่มือมิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา ประจำปี 2563 ประกอบด้วย ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 5 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 2 ร้าน) ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 24 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 4 ร้าน) ร้านอาหารรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จำนวน 94 ร้าน (เป็นร้านอาหารใหม่ 27 ร้าน)