ภายหลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตั้งข้อสงสัย ถึงบุคคล และสื่อต่างๆ ในทำนองมีเจตนาแอบแฝงกับการออกมาคาดการณ์เกี่ยวกับการยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมกับนายธนาธรได้แสดงความมั่นใจว่าไม่มีคดีความใดที่ตนเองและพรรคเผชิญอยู่ จะนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ได้นั้น นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าวว่าจากข้อเท็จจริงที่นายธนาธรได้เคยระบุไว้ในรายการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาทเศษนั้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 62 บัญญัติไว้ว่าพรรคการเมืองอาจมีรายได้ ดังต่อไปนี้ 1) เงินทุนประเดิมตามมาตรา 9 วรรคสอง 2) เงินค่าธรรมเนียมและค่าบํารุงพรรคการเมืองตามที่กําหนดในข้อบังคับ3) เงินที่ได้จากการจําหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรคการเมือง 4) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมือง 5)เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค 6) เงินอุดหนุนจากกองทุน แล7) ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง ทั้งนี้นายชูชาติชี้ว่าตามบทบัญญัติในมาตรานี้กำหนดให้พรรคการเมืองมีรายได้ตามข้อ 1ถึง 7 เท่านั้น ไม่อาจกู้ยืมเงินจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้ ฉะนั้นการที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 62 และเงินที่พรรคอนาคตใหม่รับมาจากนายธนาธรจำนวน 191 ล้านบาทเศษ จึงเป็นการรับเงินมาโดยที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 72 จึงเข้าข่ายที่ให้ กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้สั่งยุบพรรคการเมืองตามมาตรา 92