บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย ล่าสุดได้รับการประเมินคะแนนระดับดีเลิศ หรือบริษัท 5 ดาว จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2562(Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2019 : CGR) ภายใต้การดูแลของสถาบันกรรมการบริษัทไทย(IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ด้วยคะแนนเฉลี่ยโดยรวม 90% สะท้อนการบริหารองค์กรที่โปร่งใส ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการมุ่งพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการขยายธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ควบคู่กับการเตรียมพร้อมที่จะขยายตัวในประเทศ เมื่อตลาดขยับตัว นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เผยว่า บริษัทฯ ได้รับการประเมินจากสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการสำรวจคะแนน CGR ประจำปี 2562 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้คะแนนระดับดีเลิศ “5 ดาว” รวมคะแนนเฉลี่ย 90% ทั้งนี้ คะแนนรวมเฉลี่ยบริษัทจดทะเบียนโดยรวมอยู่ 82% โดยมีบริษัทได้รับคะแนนระดับดีเลิศจำนวนรวม 193 บริษัท “บริษัทฯ และพนักงาน TK ทุกคน มีภูมิใจอย่างยิ่งกับคะแนนระดับดีเลิศจาก CGR 2019 ที่บริษัทฯ ได้รับในเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2546 เป็นการสะท้อนถึงธรรมาภิบาลการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ด้วยความโปร่งใส มีจริยธรรม และสามารถตรวจสอบได้ ตอกย้ำการกำกับดูแลธุรกิจที่ดี ทั้งนี้ เรายังมุ่งพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นขององค์กรในระยะยาวให้นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าของ TK”นางสาวปฐมา กล่าว ทางด้าน นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสำรวจการกับกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2562 นี้ เป็นการสำรวจติดตามพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 677 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ TK ได้รับการประเมิน CG ที่ระดับดีมาก “4 ดาว” ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 11 ปี โดยทีมงาน TK ได้ร่วมใจกันทำงานอย่างหนัก และมีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อผู้ถือหุ้นทุกๆ ท่าน ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในดำเนินกิจการภายใต้ธรรมาภิบาล และการพัฒนาสู่ความยั่งยืนในอนาคต ควบคู่กับการบริหารธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศของ TK ด้วยการขยายสาขาในประเทศที่ TK ดำเนินกิจการอยู่ และการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศใหม่ ๆ เช่น การเริ่มเข้าไปดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในเมียนมา เมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นต้น