ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งตำรวจท่องเที่ยวทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมในทุกมิติเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรวมถึงเพิ่มศักยภาพการเฝ้าระวังป้องกันเหตุอาชญากรรมในทุกด้านและต้องพร้อมอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ แก่นักท่องท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงประจำปี 2562 และขอความร่วมมือประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสอดส่องดูแลและป้องกันปราบปรามปัญหาอาชญากรรม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.62 ที่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ ฟรอนท์ ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท.ปล่อยแถวกำลังตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจนครบาล ตำรวจ สตม. ตำรวจ บก.จร. ตำรวจบช.ปส. ตำรวจน้ำ ทหารเรือ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร และกรมเจ้าท่า จำนวน 220 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยในงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2562 พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวว่า สำหรับวันลอยกระทงตามประเพณีไทยจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากในทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีการจัดกิจกรรมการประกวดกระทงและนางนพมาศ งานแสดงแสงสีเสียง หรืองานเผาเทียนเล่นไฟ ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจร ปัญหาอาชญากรรมความเดือดร้อนรำคาญและอันตรายที่เกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง พลุประทัดและโคมลอย รวมถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่มักแอบแฝงเข้าไปประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของประชาชน พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจึงสั่งการไปยังทุกหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยสั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยบุคคลพ้นโทษและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงโดยปรากฏกายให้เห็นเด่นชัดตามสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงหรือสถานที่จัดงานรื่นเริง สถานบันเทิง ชุมชน สวนสาธารณะและพื้นที่ลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ อาทิตู้กดเงินสด (ATM) ร้านสะดวกซื้อ และสถานีบริการเชื้อเพลิง เป็นต้น พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวต่อว่า ตนอยากฝากประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในวันลอยกระทงเพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย คอยให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวทุกนายต้องให้บริการด้วยความจริงใจ สุภาพทั้งกิริยาและวาจา ให้สมดั่งคติพจน์ของตำรวจท่องเที่ยวที่ว่า“ TOURIST POLICE 1155 YOUR FIRST FIREND " สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยงานประเพณีลอยกระทงของพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 3 ห้าม 3 ไม่ 3 ควร ดังนี้ 3 ห้าม 1.ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอยในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรืออาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีโทษฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท 2.ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร มีโทษทั้งจำทั้งปรับ 3.ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่หรือโดยสารหรือบนรถ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตรา 42 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 3 ไม่คือ 1. ไม่ควรแต่งกายล่อแหลมต่อมิจฉาชีพ 2.ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานตามลำพัง 3.ไม่ควรไปเที่ยวในสถานอโคจรมั่วสุม 3ควรคือ 1.ควรระมัดระวังการใช้บริการโป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก 2.ควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกล่อลวงไปในทางมิชอบ 3.ควรรื่นเริงบนพื้นฐานของการสืบสานประเพณีไทย สิ่งสำคัญคือหากประชาชนและนักท่องเที่ยวพบเห็นเหตุสิ่งของหรือบุคคลต้องสงสัยที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายและเป็นอันตรายสามารถแจ้งข้อมูลมายังสายต่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ภายหลังจากปล่อยแถวเรียบร้อยแล้วทาง พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท.พร้อมคณะได้เดินทักทายพร้อมแจ้งเอกสารประชาสัมพันธ์ของตำรวจท่องเที่ยว เช่น พัด พวงกุญแจ เอกสารแผ่นพับ ฯลฯ และได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ บอกว่า รู้สึกประทับใจมากที่จะได้เข้าร่วมงานเทศกาลลอยกระทงของประเทศไทย และรู้สึกดีใจที่ในช่วงเทศกาลจะมีตำรวจท่องเที่ยวออกมาดูแล สร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย จากนั้นได้ลงเรือของตำรวจท่องเที่ยว พร้อมสวมเสื้อชูชีพ เพื่อตรวจความปลอดภัยทางน้ำ ก่อนจะขึ้นท่าเทียบเรือไอคอนสยาม ตรวจจุดสำคัญในการลอยกระทง ทั้งนี้ได้เดินตรวจความเรียบร้อยในไอคอนสยาม รวมถึงรับฟังการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมงานลอยกระทง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง