"วันฮาโลวีน" เวียนมาครั้งใด บรรยากาศความสนุกสนาน คึกคักชักชวนให้ผู้คนแต่งกายสยองขวัญออกมาท่องเที่ยวยามราตรีกันครื้นเครง แต่ความสนุกสนานจากการเป็นผีเพียงวันเดียวกำลังเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้คนเสียชีวิตกันจริงๆ เมื่อสถานบันเทิง ผับ บาร์ ใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้ผู้มาท่องเที่ยวยิ่งดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยโปรโมชั่นราคาพิเศษ ยิ่งดื่มยิ่งลด ยิ่งมาเยอะยิ่งจ่ายน้อยลง ส่งผลโดยตรงให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนเสี่ยงจบชีวิต บาดเจ็บ พิการ ตลอดจนการทะเลาะวิวาทและคุกคามทางเพศ "สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ" หรือ สสส. จึงร่วมกับ เครือข่ายเยาวชนพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และภาคีเครือข่าย ใช้พื้นที่บริเวณ ลานกิจกรรมเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม.จัดกิจกรรมรณรงค์รับวันฮาโลวีน ภายใต้แนวคิด Halloween 2019 NO AL Party #หยุดผีซิ่ง เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อยืนยันอีกครั้งว่า ความสนุกสนานในช่วงเทศกาลเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องพ่วงติดกับการดื่มแอลกอฮอล์ให้ชีวิตเกิดความเสี่ยง เพราะผลกระทบจากอุบัติเหตุเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างตราบาปได้ตลอดไป เช่น เรื่องราวของ “น้องโอ๊ด” นายนิรันดร ถาวงษ์กลาง อายุ 22 ปี ซึ่งเกิดอุบัติเหตุเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้เขาต้องไปอยู่ในเรือนจำกลางกรุงเทพ นานกว่า 9 เดือน ขณะที่คู่กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส และเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยความคึกคะนอง ประมาท ทำให้เปลี่ยนชีวิตเขาตลอดไป “หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ขับรถประมาท ไม่คึกคะนอง ไม่ตามเพื่อน ซึ่งตลอดเวลาที่ผมต้องสูญเสียอิสรภาพในเรือนจำ ทำให้ผมคิดได้มาก และก่อนจะเข้าเรือนจำผมได้ไปเยี่ยมคู่กรณีที่โรงพยาบาล พอเห็นสภาพเขาแล้วผมสงสารมาก เขาต้องผ่าตัด หยุดงานพักรักษาตัวอีกหลายเดือน ส่วนตัวผมก็ไหปลาร้าหัก ขาเป็นแผลเย็บไป20เข็ม จากเหตุการณ์นี้ผมขอสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ขอทำตัวให้เป็นประโยชน์กับสังคม ตอนนี้ก็มาเป็นจิตอาสาให้กับเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานช่วยเหลือเหยื่อจากอุบัติเหตุ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่เคยหลงผิด และช่วยทำทุกอย่างที่พอจะทำได้เพื่อชดเชยกับสิ่งที่ผมเคยพลาด” นายนิรันดร กล่าวถึงบทบาทของเขาที่มาในงานกิจกรรมรณรงค์รับวันฮาโลวีนฯ ครั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมรณรงค์หลากหลายของของกลุ่มเยาวชนตลอดทั้งวัน อาทิ แต่งกายเป็นผี กิจกรรมหยุดผีซิ่ง บูธรณรงค์ ส่วนช่วงเย็นมีเวทีการแสดงจากเครือข่ายเยาวชน อาทิ น้องมิกซ์ เดอะแรปเปอร์ ซิน เดอะวอยซ์ แดเนียล ไมค์ทองคำ วง PENTATONIC และ DS.RU Band และยังจัดแสดงตัวอย่างผลสำเร็จของการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ได้อย่างสนุกสนาน ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น การแสดงคอนเสิร์ตของกลุ่มโคตรอินดี้ จ.สระบุรี มีคนเข้าร่วมนับหมื่น แต่ไม่เกิดปัญหาทะเลาะวิวาท และ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) สาขาลพบุรี ที่กำหนดให้ทุกงานเลี้ยงสังสรรค์ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจุบันสถานการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนของไทยยังอยู่ในขั้นวิกฤตรุนแรง มีอัตราเสียชีวิตเฉลี่ย 50-70ราย/วัน ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับประเทศที่เกิดอุบัติเหตุสูง ลำดับที่ 9 ของโลก และเป็นอันดับ1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน มีสาเหตุทั้งจากรถ คน ถนน สิ่งแวดล้อม และจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับอยู่ในอันดับต้นๆ ขณะที่ในจำนวนผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ15–24 ปี มากถึง 47.1% โดยมีอัตรานักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 250,000 คนต่อปี ในงานฯ ครั้งนี้ประชาชนหลากหลายช่วงอายุจึงออกมาร่วมกันแสดงพลัง ส่งเสียง ชวนสร้างวัฒนธรรมงานเลี้ยงใหม่ สนุกได้ ไม่เสี่ยงแบบไร้แอลกอฮอล์ด้วยตัวเอง “อนุรักษ์ เอื่อมศรี” นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า มาร่วมกิจกรรมรณรงค์รับวันฮาโลวีนนี้ทุกปี เพราะอยากเห็นบ้านเมืองเราลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสีย “วันนี้ผมแต่งตัวเป็นผีโจ๊กเกอร์ เพราะมันดูลึกลับดี ช่วงวันฮาโลวีน คนเดินทางกินดื่มเยอะ อุบัติเหตุก็เยอะ บางคนเมาแล้วขับ ประมาท ไม่ใส่หมวก อุบัติเหตุเกิดขึ้นทุกวัน ผู้เกี่ยวข้องต้องออกมาช่วยกันลดปัญหา ทุกคนต้องร่วมมือกัน” “วุฒิชัย ผาหลัก” หรือ “น้องมิกซ์ เดอะแรปเปอร์” กล่าวว่า วันนี้มาร่วมร้องเพลงในงานฮาโลวีน หยุดผีซิ่ง เพื่อรณรงค์งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราควรใช้เทศกาลนี้ไปในทางที่สร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่มีความสุข สนุกได้ไม่จำเป็นต้องมีแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง เที่ยวเสร็จเดินทางกลับเราก็ปลอดภัย ได้รับความสุขโดยที่ไม่ต้องระแวงว่าจะต้องเจอคนเมาขาดสติ โวยวาย ทำให้เสียบรรยากาศในงาน ยิ่งเห็นข่าวอุบัติเหตุสะเทือนใจ น่าหดหู่มีผู้เสียชีวิต ดังนั้นควรช่วยกันสร้างค่านิยมให้เกิดกิจกรรมลักษณะนี้ต่อเนื่องและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย วันนี้ผมและเพื่อนๆก็ได้แต่งเพลงให้กับงานนี้ด้วย “น้องหงศ์” วัชชิชา พรพงศ์ นักเรียนโรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์ เดินทางมาร่วมงานพร้อมกับแก๊งเพื่อนๆ โดยสะท้อนว่า มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้แทบทุกปี เพราะมันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าจะเข้าผับบาร์ แถมวันนี้ได้เรียนรู้เรื่องข้อกฎหมาย บูธกิจกรรมต่างๆที่เป็นความรู้ สนุกเพลิดเพลิน ทั้งนี้เมื่อยิ่งเห็นผลกระทบจากอุบัติเหตุแล้วยิ่งอยากร่วมรณรงค์อยากเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหา อยากฝากว่าทุกคนต้องร่วมมือกันรับผิดชอบสังคม ขับรถอย่างมีความรับผิดชอบ ดื่มไม่ขับ ด้านผู้ปกครอง อาจารย์ปวิศญา ศีลน้อย โรงเรียนบ้านคลองพู จังหวัดสุราษฏ์ธานี กล่าวว่า วันนี้พาลูกมาร่วมกิจกรรม เพราะงานสังสรรค์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ทำให้ปลอดภัย อุ่นใจได้ ซึ่งอยากจะให้มีกิจกรรมการเรียนรู้ลักษณะนี้ในโรงเรียนด้วย “เมื่อเดือนที่แล้ว มีคนใกล้ชิดดื่มเหล้าเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุ สมองบวมจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมาก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเทศกาลไหนๆ คนท่องเที่ยวกินดื่มเยอะมาก ส่งผลต่ออุบัติเหตุ จึงอยากให้ระมัดระวัง เมาไม่ขับ ไม่ประมาท และควรจัดงานที่ปลอดเหล้าปลอดอบายมุข ชีวิตจะได้ปลอดภัยคนรอบข้างก็ไม่กังวล” ขณะที่ นางสมพร พุทธประดิษฐ์ จูงแขนลูกสาว “น้องครีม” มาร่วมงานเป็นครั้งที่2 พร้อมกล่าวว่า ลูกสาวประทับใจตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะน้องเห็นกิจกรรมที่เครือข่ายเยาวชนจัดขึ้น น้องรู้สึกได้ว่ามันใช่เลย สนุกสนาน มีกิจกรรมให้เล่นมากมาย ที่สำคัญคือ แม่และน้องรู้สึกปลอดภัย เพราะงานนี้ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีบริการน้ำผลไม้มาทดแทน มันพิสูจน์ว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งแอลกอฮอล์ ไม่เมาก็มันส์ได้ “ที่เลือกพาลูกสาวมาฉลองฮาโลวีนที่นี่เพราะมันปลอดภัน จากที่เห็นมาหลายราย แทบทุกวัน พอดื่มฉลองจากผับบาร์ สถานบันเทิง ก็ขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ หรือเมาทะเลาะวิวาท สร้างความสูญเสียทั้งตัวเองและผู้อื่น อยากฝากว่าทุกที่ควรจัดงานสังสรรค์กันแบบไม่มีแอลกอฮอล์ การกินเหล้ามันเป็นอุบัติเหตุควบคุมยาก” แม่น้องครีม ฝากทิ้งท้าย