ปัจจุบันคนไทยใช้ LINE เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกันระหว่างเพื่อน คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน และครอบครัว โดยพบว่ามีบัญชีผู้ใช้งานมากกว่า 44 ล้านบัญชีทั่วประเทศ หรือกว่า 90% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ผู้ใช้สามารถติดตามข่าวสารและความบันเทิงมากมายผ่าน LINE ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญยังสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงจากหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ได้โดยตรง ตลอดจนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกับแบรนด์สินค้าที่ชื่นชอบได้สะดวกจากทุกที่ทุกเวลา อันเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคจาก LINE Official Account (LINE OA) ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานถึง 3 ล้านบัญชี LINE OA ยังคงถูกพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น จนเรียกได้ว่ามีโซลูชั่นครบหากสามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ (All In One) ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย ทำให้ในเวลานี้ ไม่มีใครปฏิเสธว่าเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการสื่อสารระหว่างแบรนด์ไปยังผู้บริโภคนั้นก็คือ LINE OA ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นช่องทางสื่อสารในการสร้างความตระหนักรู้ไปยังผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นช่องทางการตลาด จัดแคมเปญส่งเสริมการขาย รวมไปถึงสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ให้ลูกค้ามีปฎิสัมพันธ์กับทางแบรนด์จนเกิดความชื่นชอบและจงรักภักดี (loyalty) ต่อแบรนด์ผ่านโลกดิจิทัล และฟีเจอร์ที่โดดเด่นก็คือ การเปิดให้แบรนด์สามารถเก็บสะสมข้อมูลเป็น Big Data ได้เอง เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกไปใช้ในการทำความเข้าใจกับลูกค้าได้มากขึ้น โดย 3 กลุ่มธุรกิจที่มีการประยุกต์ใช้ LINE OA ในการสร้างตัวตนและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุดในปัจจุบัน คือ กลุ่มรีเทล, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) และกลุ่มธนาคาร และหนึ่งในแบรนด์ที่ถือว่ามีการประยุกต์ใช้ LINE OA ได้อย่างโดดเด่น คือ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด หรือ LION ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ในเครือสหพัฒน์ ภายใต้แบรนด์สินค้าหลากหลาย อาทิ PAO, SALZ และ Shokubutsu เป็นต้น ได้ปรับกลยุทธ์และก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลด้วยการเริ่มต้นสร้าง LION FAMILY (ไลอ้อน แฟมิลี่) เมื่อต้นปี 2561 จนปัจจุบันมีผู้ติดตามแล้วมากกว่า 4.4 ล้านบัญชี และในปีนี้ยังได้ร่วมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ด้วยการสร้างประสบการณ์การ ช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพจากเครือ LION ได้ทันทีในแบบครบจบในที่เดียว จึงนับเป็นการใช้เครื่องมือบน LINE OA ได้อย่างเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง สมศักดิ์ อัศวรุ่งสกุล กรรมการบริหารการตลาด บริษัท ไลอ้อน​ จำกัด มองจุดเด่น OA ช่วยแบรนด์เข้าใจลูกค้า สมศักดิ์ อัศวรุ่งสกุล กรรมการบริหารการตลาด บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาสายธุรกิจ FMCG พบกับความท้าทายใหม่ๆ มากมาย ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้ผู้บริโภคมีข้อมูลมากขึ้น ต้องการอะไรที่รวดเร็วและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดอี-คอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นมากทำให้เกิดผู้ผลิตรายใหม่ ๆ มากมายส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น ซึ่งบริษัทเองตระหนักเห็นความสำคัญในเรื่องนี้จึงปรับตัวเองเข้าสู่โลกดิจิทัลเพื่อต้องการตอบสนองผู้บริโภคให้ได้ดีที่สุด โดยเลือก LINE OA เพราะเป็นเครื่องมือที่จะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด “เรามองเห็นถึงประโยชน์จากการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า การสร้างความตระหนักรู้ให้กับแบรนด์ และยังเห็นความโดดเด่นของ LINE OA ที่เปิดให้สามารถเก็บสะสมข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้เอง โดยการที่ LINE มีฐานลูกค้าที่กว้างมากทั่วประเทศ ตรงกับฐานลูกค้าทั่วประเทศของ LION แต่ที่ผ่านมาช่องทางการขายของเราจะผ่านช่องทางค้าปลีกค้าส่ง ซึ่งเราไม่เคยได้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคโดยตรง ทำให้ยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่ชัดเจนมากพอจะสามารถนำมาทำเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด หรือนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับความต้องการของของผู้บริโภคได้ดีที่สุด แต่ LINE เปิดให้เราสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าเองได้ ด้วยการค่อย ๆ สะสมข้อมูลจากการทำแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้เรามีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่สามารถนำไปต่อยอดในการหากลยุทธ์การตลาด และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้แม่นยำมากขึ้น เราใช้ประโยชน์เต็มรูปแบบจาก LINE OA คือเป็นทั้งช่องทางการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ และยังใช้เป็นช่องทางในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเก็บสะสมข้อมูลลูกค้าในเชิงลึกเพื่อที่จะสามารถเข้าใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยระบบหลังบ้านนั้นจะทำงานร่วมกับ Far East Fame Line DDB ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งในอนาคตมีความเป็นไปได้ว่าเราอาจจะมองเห็นรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ จากการที่เราเข้าใจลูกค้ามากขึ้นก็เป็นได้” สมศักดิ์ กล่าว ด้าน “เกษแก้ว อิทธิกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า จุดเด่นของ LINE OA คือการที่แบรนด์สามารถเก็บสะสม Data ได้เองบนแพลทฟอร์ม LINE ที่มีฐานลูกค้าค่อนข้างกว้างทั่วประเทศและจำนวนมากพอ เพื่อให้แบรนด์สามารถทำความเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้กับผู้บริโภค เช่น การเปิดช้อปปิ้งออนไลน์ ดังเช่นที่ผ่านมา ซึ่ง LINE สามารถอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเราได้ดียิ่งขึ้น คุณเกษแก้ว อิทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ในปัจจุบัน ผู้บริโภคอยู่บนช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นแบรนด์เองต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคให้ทันท่วงที เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้บริโภค ให้เกิดความคุ้นเคยกับสินค้า มีความผูกพันในแบรนด์ จึงจะทำให้เกิดการ ซื้อซ้ำ และบอกต่อ ใช้ OA อย่างไรให้ประสบผลสำเร็จ ศรีสุภาคย์ อารีวณิชกุล ผู้อำนวยการธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทย แนะนำว่า การใช้ประโยชน์จาก LINE OA ได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและประสบความสำเร็จได้นั้น ก็คือใช้เป็นช่องทางในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ไปจนถึงการต่อยอดทำให้เกิดการซื้อ (conversion) และให้ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมที่ดีกับแบรนด์รวมอยู่ในที่เดียว ซึ่ง LINE OA ได้เปิด API ให้นักพัฒนาสามารถต่อยอดพัฒนาโซลูชั่นต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า การจัดแคมเปญการตลาด และการเปิดตลาดซื้อขายบนออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ การสื่อสารไปยังผู้บริโภคยังจำเป็นต้องสื่อสารไปยังผู้บริโภคกลุ่มที่ต้องการรับสารนั้นๆ ด้วย เพื่อให้การสื่อสารนั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหลายแบรนด์เองจึงเริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากการทำคอนเท้นท์ โดยนำข้อมูลของผู้บริโภคมาวิเคราะห์ และทำ Customer Segmentation เพื่อสื่อสารและส่งข้อมูลไปถึงลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีความสนใจแตกต่างกันออกไป คุณศรีสุภาคย์ อารีวณิชกุล ผู้อำนวยการธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทย.JPG สุดท้าย คือมองว่าการเก็บข้อมูลและนำไปใช้อย่างถูกวิธี จะช่วยให้เกิดประโยชน์กับทั้งแบรนด์และผู้บริโภคเอง คือหากแบรนด์รู้ว่าสินค้าไหนขายดีหรือไม่ดี หรือสินค้าไหนที่ผู้บริโภคมีความต้องการมากที่สุด หรือโปรโมชั่นไหนที่โดนใจผู้บริโภคมากที่สุด จะช่วยให้แบรนด์สามารถเก็บและนำข้อมูลเหล่านั้นมาต่อยอดและพัฒนาสินค้าให้ตรงใจกับผู้บริโภคได้ทันที "อย่างไรก็ดี LINE มีความห่วงใยเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดของลูกค้าเป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีการเปิดให้แบรนด์สามารถเก็บ Data ของลูกค้าได้นั้นจะเป็นการค่อย ๆ สะสมข้อมูลของแบรนด์เองจากการทำกิจกรรมการสื่อสารและการตลาดของแบรนด์นั้น ๆ ซึ่งเราพบว่า LION เป็นหนึ่งในอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่ใช้งาน LINE OA ได้อย่างเต็มรูปแบบที่จะช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ขณะที่ LINE เองใช้ข้อมูลจากความสนใจหรือความต้องการของลูกค้าแบรนด์มาช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจเช่นกัน โดยได้นำมาพัฒนาฟีเจอร์เพื่อหาโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบรนด์เช่นกัน” ศรีสุภาคย์ กล่าวปิดท้าย สามารถติดตามเรื่องราวความสำเร็จ พร้อมกลยุทธ์การทำธุรกิจผ่าน LINE OA ของ ไลอ้อน แบบเจาะลึกเพิ่มเติมได้ที่งาน LINE Retail Tech 2019 งานสัมมนาธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี พร้อมพบกับเหล่ากูรู ผู้เชี่ยวชาญจากวงการธุรกิจค้าปลีกหลากหลายแบรนด์ทั่วฟ้าเมืองไทย มาร่วมแชร์มุมมอง ประสบการณ์ที่มีต่อธุรกิจค้าปลีก อาทิ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย, เกษร พร็อพเพอร์ตี้, บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, สยามพิวรรธน์, เดอะมอลล์ กรุ๊ป และอีกมากมาย ที่จะมาอัพเดททิศทาง แนวโน้มของวงการอุตสาหกรรมธุรกิจค้าปลีกไทยในอนาคตที่ผู้ประกอบการไทยควรรู้! และพิเศษสุด กับโอกาสสุดเอ็กซ์คลูซีฟในการอัพเดท ทดลองนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ LINE Solutions เครื่องมือในการช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เหล่าผู้ประกอบการแบบครบวงจร! ที่งานนี้ที่เดียวเท่านั้น! LINE Retail Tech 2019 งานสัมมนาธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 13.30 – 18.00 น. ณ ห้องแมกโนเลีย บอลลูม โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ (Waldorf Astoria Bangkok) สงวนสิทธิ์เฉพาะพาร์ทเนอร์ที่ได้รับเชิญเท่านั้น