หนุ่มร้อยเอ็ด อาชีพขับแท็กซี่ เก็บกระเป๋าส่งคืนเจ้าของนักธุรกิจชาวออสเตรีย ผ่าน สวพ.FM 91 ภายในมีทรัพย์สินและเงินสดเงิน มูลค่ากว่า 1.2 แสนบาท เจ้าของกระเป๋ามอบเงินเป็นสินน้ำใจให้ 450 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 15,750 บาท
วันนี้ ( 5 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สวพ. FM 91 ถนนพหลโยธิน นายอุทิศ เสน่หา อายุ 49 ปี คนขับขี่รถนั่งสาธารณะ (แท็กซี่) สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทส 4044 กรุงเทพมหานคร ได้นำเกระเป๋าเอกสารซึ่งภายในกระเป๋าจะมีธนบัตร สกุลเงินต่างชาติ (ยูโร), ดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา และเงินบาทไทย รวมมูลค่ากว่า 1.2 แสนบาท และทรัพย์สินมีค่าอีกจำนวนหนึ่งมาส่งมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ สวพ. FM 91 เพื่อส่งคืนให้กับ นายโฮลเลอร์ แอนดริส อายุ 47 ปี นักธุรกิจ สัญชาติออสเตรีย หลังจากเจ้าหน้าที่โรงแรมฯ วางกระเป๋าใบดังกล่าวไว้ภายในกระโปรงท้ายรถแท็กซี่ แต่นักธุรกิจหนุ่ม ออสเตรเลีย ไม่ทันได้ใช้บริการ เหตุเกิดริมถนนสีลม ใกล้แยกเดโช เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่ายมา โดยมี นางสาวไจตนย์ ศรีวังพล, นางสาวจิตต์ผ่องใส ศรีวังพล และนายสกล ถาวรกาญจน์ ผู้บริหารสถานีวิทยุฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายโฮลเลอร์ กล่าวว่า ได้แจ้งความกับ ร.ต.อ.อรรถพล ขุนนุช รอง สว.(สอบสวน) สน.ยานนาวา ว่า ในวันเกิดเหตุ พนักงานโรงแรมได้วางกระเป๋าสัมภาระใบเล็กของตนไว้ภายในกระโปรงท้ายรถแท็กซี่คันดังกล่าว ก่อนพนักงานจะไปสอบถามโชเฟอร์แท็กซี่ว่า มีเงินทอนหรือไม่แต่โชเฟอร์แท็กซี่ไม่มี เจ้าหน้าที่จึงเดินเข้าไปแลกธนบัตรที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม แต่โชเฟอร์ได้ขับรถออกไป ทั้งที่ตนเองยังไม่ได้ขึ้นไปนั่งบนรถ ซึ่งภายในกระเป๋ามีหนังสือเดินทาง,บัตรประจำตัว, บัตรเครดิต 6 ใบ,โทรศัพท์ไอโฟน 3 เครื่อง, เงินสกุลยูโร 4,000 ยูโร, เงินสกุลฟรังค์สวิส 1,000 ฟรังค์, เงินบาทไทย 10,000 บาท และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ 30 ดอลลาร์ ทำเอาตนนอนไม่หลับถึง 3 วันทีเดียว ตนรู้สึกขอบคุณมากๆ ในน้ำใจคนไทย และมั่นใจว่าจะกลับมาเที่ยวอีก
นายอุทิศ โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระหว่างที่กำลังทำความสะอาดรถเพื่อเตรียมให้อู่นำรถไปแก้ไขระบบเบรค ได้พบกระเป๋าถือสีดำ วางอยู่ภายในกระโปรงท้ายรถ จึงรู้สึกตกใจ เพราะจำไม่ได้ว่ากระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของผู้โดยสารรายไหน จำได้เพียงว่า ก่อนหน้านี้รับผู้โดยสารที่มีกระเป๋าสัมภาระที่ต้องวางไว้กระโปรงท้ายรถ 3 ราย ก่อนรีบเรียกเจ้าของอู่ และเพื่อนๆ มาช่วยกันตรวจสอบกระเป๋า ก่อนจะได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ สวพ.91 แจ้งว่า มีชาวต่างชาติลืมกระเป๋าพร้อมทรัพย์สินมีค่าไว้บนรถของตน จึงรีบเช่ารถเพื่อนที่อู่ นำกระเป๋ากลับมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ สวพ.91
นายอุทิศ กล่าวต่อ ถ้าเจ้าของไม่โทรศัพท์เข้ามือถือในวันนั้น ก็จะไปแจ้งความกับตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เพราะใจอยากจะคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้เจ้าของอย่างเร็วที่สุด ทั้งนี้ ตนขับรถแท็กซี่เลี้ยงครอบครัวมาตั้งแต่สมัยที่ พล.อ.ชาวลิต ยงใจยุทธ ยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรี จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว และเคยเก็บเงินของผู้โดยสาร ที่ทำหล่นบนรถได้มากที่สุด คือ 50,000 บาท ซึ่งตนก็นำไปส่งคืนให้เจ้าของ เพราะจำบ้านของผู้โดยสารได้ จึงขับรถไปคืนให้ถึงที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการส่งมอบ นายโฮลเลอร์ แอนดริส นักธุรกิจชาวออสเตรีย ได้มอบเงินเป็นสิ้นน้ำใจให้กับ นายอุทิศ คนขับแท็กซี่ จำนวน 450 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 1.5,750 บาท
นายโฮลเลอร์ กล่าวว่า ได้แจ้งความกับ ร.ต.อ.อรรถพล ขุนนุช รอง สว.(สอบสวน) สน.ยานนาวา ว่า ในวันเกิดเหตุ พนักงานโรงแรมได้วางกระเป๋าสัมภาระใบเล็กของตนไว้ภายในกระโปรงท้ายรถแท็กซี่คันดังกล่าว ก่อนพนักงานจะไปสอบถามโชเฟอร์แท็กซี่ว่า มีเงินทอนหรือไม่แต่โชเฟอร์แท็กซี่ไม่มี เจ้าหน้าที่จึงเดินเข้าไปแลกธนบัตรที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม แต่โชเฟอร์ได้ขับรถออกไป ทั้งที่ตนเองยังไม่ได้ขึ้นไปนั่งบนรถ ซึ่งภายในกระเป๋ามีหนังสือเดินทาง,บัตรประจำตัว, บัตรเครดิต 6 ใบ,โทรศัพท์ไอโฟน 3 เครื่อง, เงินสกุลยูโร 4,000 ยูโร, เงินสกุลฟรังค์สวิส 1,000 ฟรังค์, เงินบาทไทย 10,000 บาท และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ 30 ดอลลาร์ ทำเอาตนนอนไม่หลับถึง 3 วันทีเดียว ตนรู้สึกขอบคุณมากๆ ในน้ำใจคนไทย และมั่นใจว่าจะกลับมาเที่ยวอีก
นายอุทิศ โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระหว่างที่กำลังทำความสะอาดรถเพื่อเตรียมให้อู่นำรถไปแก้ไขระบบเบรค ได้พบกระเป๋าถือสีดำ วางอยู่ภายในกระโปรงท้ายรถ จึงรู้สึกตกใจ เพราะจำไม่ได้ว่ากระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของผู้โดยสารรายไหน จำได้เพียงว่า ก่อนหน้านี้รับผู้โดยสารที่มีกระเป๋าสัมภาระที่ต้องวางไว้กระโปรงท้ายรถ 3 ราย ก่อนรีบเรียกเจ้าของอู่ และเพื่อนๆ มาช่วยกันตรวจสอบกระเป๋า ก่อนจะได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ สวพ.91 แจ้งว่า มีชาวต่างชาติลืมกระเป๋าพร้อมทรัพย์สินมีค่าไว้บนรถของตน จึงรีบเช่ารถเพื่อนที่อู่ นำกระเป๋ากลับมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ สวพ.91
นายอุทิศ กล่าวต่อ ถ้าเจ้าของไม่โทรศัพท์เข้ามือถือในวันนั้น ก็จะไปแจ้งความกับตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เพราะใจอยากจะคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้เจ้าของอย่างเร็วที่สุด ทั้งนี้ ตนขับรถแท็กซี่เลี้ยงครอบครัวมาตั้งแต่สมัยที่ พล.อ.ชาวลิต ยงใจยุทธ ยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรี จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว และเคยเก็บเงินของผู้โดยสาร ที่ทำหล่นบนรถได้มากที่สุด คือ 50,000 บาท ซึ่งตนก็นำไปส่งคืนให้เจ้าของ เพราะจำบ้านของผู้โดยสารได้ จึงขับรถไปคืนให้ถึงที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการส่งมอบ นายโฮลเลอร์ แอนดริส นักธุรกิจชาวออสเตรีย ได้มอบเงินเป็นสิ้นน้ำใจให้กับ นายอุทิศ คนขับแท็กซี่ จำนวน 450 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 1.5,750 บาท