“โกลเบล็ก”มองหุ้นไทยมีลุ้น Rebound หลังได้แรงหนุนจากสหรัฐฯ-จีนส่อแววเคลียร์ปัญหาข้อตกลงสงครามการค้ากันได้ บวกสหรัฐฯกำลังพิจารณาคืนสิทธิ GSP ไทยบางส่วน และ BOI แจ้งยอดขอส่งเสริมการลงทุนน 9 เดือนแรกปี 62 กว่า 3.14 แสนล้านบาท ตามการขยายการลงทุนของญี่ปุ่นและจีน ให้กรอบดัชนี 1,600-1,640 จุด แนะลงทุนหุ้นเด่นเดือน พ.ย.นี้คือ TACC-PSTC-BCH ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound โดยมีแรงหนุนจากข่าวสหรัฐฯ-จีนได้บรรลุฉันทามติในหลักการต่างๆแล้ว และมีแนวโน้มลงนามข้อตกลงทางการค้าในกลางเดือนพ.ย.นี้ ประกอบกับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI เริ่มฟื้นตัว อีกทั้งคาดว่าสหรัฐฯจะพิจารณาคืนสิทธิ์ GSP บางส่วนให้กับสินค้าไทย โดยจะเปิดให้มีการเจรจาระหว่างกันก่อนมีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ยังรวมถึงที่บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วง 9 เดือนของปี 2562 กว่า 1,100 โครงการ มูลค่า 3.14 แสนล้านบาท และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้น 69% เนื่องจากญี่ปุ่น-จีนขยายลงทุนไทยต่อเนื่องโดย ดังนั้นจึงให้กรอบดัชนี 1,600-1,640 จุด น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวถึงปัจจัยด้านลบที่มีผลต่อการลงทุนในระยะสั้นว่า มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงที่องค์การการค้าโลก(WTO) ไฟเขียวจีนกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯวงเงิน 3.58 พันล้านดอลล์ต่อปี เนื่องจากสหรัฐฯไม่ยอมยกเลิกกฎหมายต่อต้านการทุ่มตลาดซึ่ง WTO ตัดสินว่าผิดกฎหมาย และค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปี ตั้งแต่ต้นปีแข็งค่ากว่า 6.5% กดดันการส่งออกทั้งปีหดตัว ต.ค.นี้ ส่วนประเด็นที่ยังคงต้องจับตาต่ออาทิ ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.จากไฉชิน สหรัฐฯเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย.62 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.62 จากมาร์กิต ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.62 จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ(ISM) และ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย.62 ทั้งนี้ในวันที่ 6 พ.ย.62 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.),อียู เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.62 จากมาร์กิต และยอดค้าปลีกเดือนก.ย.62 สหรัฐฯเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และในวันที่ 7 พ.ย.62 จีนเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค.62 ธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐฯเปิดจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งวันที่ 8 พ.ย.62 จีนเปิดเผยดุลการค้าเดือนต.ค.62 นอกจากนี้เยอรมนีเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย.62 สหรัฐฯเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และวันที่ 9 พ.ย.จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.62ทั้งนี้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเด่นเดือนพ.ย. อาทิ TACC, PSTC, BCH และหุ้นที่แข็งกว่าตลาดเช่น ADVANC,AOT,BEM และ BTS ด้านราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำช่วงนี้ราคาทองคำผันผวนในกรอบใหญ่ โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ และมีจุดขายทำกำไรที่แนวต้าน 1,520 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทย 21,400-21,710 บาทต่อบาททองคำ โดยแนะนำให้ติดตามเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนหากคลี่คลายไปในทางบวกจะเป็นผลลบต่อราคาทองคำ โดยมองว่าราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะ sideway หลังเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 1.75% แต่ทองคำไม่ได้ตอบสนองเชิงบวกมากนัก อีกทั้งกองทุน SPDR เริ่มมีสถานะขายออกมา