ชทพ. ส่ง“นิกร”นั่งกมธ.ศึกษาแก้รธน.ชี้เป็นดาบสองคม หวั่นถูกนำเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซ้ำรอยสังคมแตกแยก วันที่ 4 พ.ย. นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะผู้เสนอญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ถือเป็นความเข้มข้นทางการเมือง เพราะทุกพรรคทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้านต่างยื่นญัตติกันหมด ในส่วนของตนจะเป็นกรรมาธิการศึกษาฯในส่วนของชทพ. เพื่อนำเสนอจะแก้แบบไหนถึงจะสำเร็จ แต่คงไม่ตั้งธงอะไรไว้เลย แต่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2540 อยู่ด้วย แต่พรรคประชาธิปัตย์​​จะส่งร่วมเป็นกมธ.วิสามัญฯหรือไม่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ “เมื่อรัฐบาลได้สัญญาไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน ฝ่ายค้านจึงรุกเต็มที่ เพราะมีแต่ได้กับได้ หากนำไปสู่การแก้ไขก็ถือว่า ได้ แต่ไม่ได้ รัฐบาลก็อาจถูกมองว่า ไม่จริงใจได้เช่นกัน เมื่อตั้งกมธ.วิสามัญฯแล้ว ก็จะมีประเด็นอีกว่า จะแก้ตรงไหน เพราะติดล็อกหลายชั้น อีกฝ่ายก็ไม่มั่นใจว่า จะแก้อะไรบ้าง จึงเป็นปัญหา ดังนั้น หลังจากนี้คงต้องหารือกัน แต่โดยรวมถือว่า มีความคืบหน้าไปตามเวลา”นายนิกร กล่าว และว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นดาบสองคม หากใครอาศัยเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการโจมตีกันจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปสู่ระเบิดเวลาที่อาจทำให้สังคมแตกแยกกันขึ้นมาได้ จึงต้องพึ่งระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นจะเสียหายกันอีกมาก นายนิการ กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนขององค์กรภาคีเครือข่ายเพื่อการรณรงค์และเครื่องไหวการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายโคทม อารียา เป็นประธาน ถือว่า มีกำลังเข้มแข็ง โดยปรารถนาให้รัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยจะใช้ความร่วมมือด้วยการถามประชาชนเป็นหลักว่า ต้องการอะไร ส่วนประเด็นหรือมาตราไหนในการแก้เป็นรอง ซึ่งต่างจากของพรรคการเมือง จะนำมาตราใดมาตราหนึ่งมาเป็นหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบกันในทางการเมืองมากกว่า