ยันรถพยาบาลเมายาบ้าชนจยย.ที่ชัยภูมิ ไม่ใช่ของกทม.

ระบุตรวจสอบข้อมูลไม่มีทะเบียนรถข้างต้น คาดตราสัญลักษณ์กทม.อาจแอบอ้าง หรือมาจากรถกทม.ที่ขายทอดตลาดและยังไม่ไดลอกสติกเกอร์ออก ย้ำกทม.มีการตรวจมาตรฐานทั้งรถฉุกเฉินและคนขับอย่างเข้มงวด นายชวินทร์ ศิรินาค ผอ.สำนักอนามัย กทม. กล่าวถึงกรณีมีข่าวรถตู้ฉุกเฉิน หมายเลขทะเบียน 3 กพ 5182 กรุงเทพมหานคร ข้างประตูรถมีตราสัญลักษณ์ “กรุงเทพมหานคร” เกิดอุบัติเหตุชนรถจักรยานยนต์ที่จังหวัดชัยภูมิ และตรวจสอบพบผู้ขับขี่ นายซุกครี่ เทพโยธิน มีสารเสพติดในปัสสาวะว่า สำนักอนามัย มีรถปฐมพยาบาล สำหรับใช้ส่งต่อผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉินวิกฤตไปยังโรงพยาบาลในเขตกทม. เท่านั้น ซึ่งคนขับ รถพยาบาลฉุกเฉินที่จะให้บริการได้ ต้องเข้าระบบการแพทย์ฉุกเฉินของกทม.โดยมีศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) เป็นผู้กำกับและบริหารจัดการ นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองผอ.สำนักการแพทย์ รักษาราชการแทนผอ.สำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่พบรายชื่อและทะเบียนรถข้างต้นในระบบงานบัญชีทรัพย์สินของ กทม. ขณะที่การติดเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ “กรุงเทพมหานคร” ของรถคันดังกล่าว อาจเป็นการแอบอ้างติดเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ “กรุงเทพมหานคร” หรือมีการขายทอดตลาดรถของหน่วยงาน กทม. แต่ไม่ได้ลอกเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ “กรุงเทพมหานคร” ออก ทั้งนี้ กทม. มีการตรวจรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินและขึ้นทะเบียนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินทุกปี โดยในปี 2562 มีรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับชุดปฏิบัติการเบื้องต้น (First Responder : FR) ขึ้นทะเบียนจำนวน 635 คัน โดยรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ผ่านเกณฑ์การตรวจรับรองมาตรฐานฯ จะต้องติดสัญลักษณ์ BangkokEMS และปีที่ผ่านการตรวจรับรอง นอกจากนี้ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร ยังตรวจสุขภาพประจำปีเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน และตรวจสอบความพร้อมในการปฏิบัติงานทั้งด้านความพร้อมของเจ้าหน้าที่และความพร้อมของรถยนต์ โดยจัดอบรมพนักงานขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามโครงการอบรมขับขี่ปลอดภัย ตั้งแต่ปี 60 จนถึงปัจจุบัน 7 รุ่น รวมทั้งสิ้น 220 คน