รมว.เกษตรฯ สั่งกรมการข้าวด่วน ติดตามสถานการณ์โรคระบาดโรคไหม้คอรวงข้าว หลังพบการระบาดแล้วกว่า 3 แสนไร่พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ และให้กำลังใจชาวนาที่ได้รับผลกระทบ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับราบงานจาก นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว ว่า พบการระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าว ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดศรีสะเกษ มีความเป็นห่วงจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มอบหมายให้กรมการข้าวหาแนวทางการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากรายงานสถานการณ์การระบาดโรคไหม้คอรวงข้าวของสำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ พบว่าตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2562 พบการระบาดในพื้นที่ 15 อำเภอ ของจังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ กันทรารมย์ ขุขันธ์ ขุนหาญ โนนคูณ ปรางค์กู่ พยุห์ โพธิ์ศรีสุวรรณ ไพรบึง ภูสิงห์ เมืองจันทร์ เมืองศรีสะเกษ วังหิน ศรีรัตนะ ห้วยทับทัน และอุทุมพรพิสัย รวมจำนวน 89 ตำบล เกษตรกร 9,940 ครัวเรือน พื้นที่พบการระบาด 81,506 ไร่ สำหรับในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ พบการระบาดครั้งแรก ในแปลงพยากรณ์ศัตรูพืช (ข้าว) เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำดวน สนม สำโรงทาบ ปราสาท โนนนารายณ์ และศรีณรงค์ ต่อมาพบการระบาดเพิ่มมากขึ้นเป็น 17 อำเภอ 140 ตำบล 1,331 หมู่บ้าน เกษตรกร 49,204 ราย รวมพื้นที่การรระบาดทั้งสิ้น 283,454.75 ไร่ ด้าน นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้กรมการข้าวได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยข้าวและศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ ให้ให้บูรณาการความช่วยเหลือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ให้เร่งออกสำรวจ ติดตามสถานการณ์การระบาดพร้อมประเมินความเสียหาย และให้ประชุมชี้แจงชาวนาในพื้นที่ที่พบการระบาด ให้ทราบถึงสาเหตุของการเกิดโรค ตลอดจนวิธีป้องกัน กำจัด และควบคุมโรค ตามหลักวิชาการ ซึ่งได้รับรายงานจากสำนักงานเกษตรอำเภอ ว่าพบการระบาดของโรคไหม้คอรวง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ข้าวที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยวได้รับความเสียหาย จึงได้ออกสำรวจติดตามสถานการณ์ระบาดของศัตรูพืช ดังกล่าว พร้อมประเมินความเสียหายที่พบ ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 2562 และได้ประชุมชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ และเกษตรกรในพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าว ให้ทราบถึงสาเหตุของการเกิดโรค ลักษณะการทำลายของโรค ตลอดจนแนะนำวิธีการป้องกันกำจัดตามหลักวิชาการและได้สนับสนุนเชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ มอบให้ทุกอำเภอที่พบการระบาดไปแล้วกว่า 1,000 ถุง (ฉีดพ่นได้กว่า 1,250 ไร่) เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ฉีดพ่นบริเวณที่มีการระบาดและบริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันไม่ให้การระบาดขยายเป็นวงกว้าง พร้อมทั้งสาธิตและแนะนำวิธีการนำไปใช้ที่ถูกต้องเพื่อให้มีประสิทธิสูงสุดในการป้องกันกำจัดโรคไหม้คอรวงข้าว ดังกล่าว ทั้งนี้ได้แจ้งให้สำนักงานเกษตรอำเภอ ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด และแนะนำวิธีป้องกันกำจัดให้เกษตรกรได้รับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อให้สามารถควบคุมการระบาดให้ทันท่วงที พร้อมให้รายงานให้จังหวัดทราบ ต่อไป