ฉลาดซื้อ มูลนิธิผู้บริโภค ร่วมกับม.มหิดล และรพ.รามาฯ สุ่มตรวจของเล่นเด็ก 51 ตัวอย่าง ทั้งที่มีมอก. และไม่มีมอก. พบมีปัญหา ระบุประเภทตุ๊กตาบีบ มีทาเลต ผสมสูงมาก หมอระบุมีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อ โดยเฉพาะเพศชาย ปลายปีนี้เตรียมใช้ประกาศคุมทาเลตห้ามเกิน 0.1 ตามมาตรฐานโลก ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายใต้โครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการด้านสุขภาพ สุ่มเก็บตัวอย่างของเล่น และของใช้ประเภทพลาสติกพีวีซี (PVC) ที่เด็กอาจนำมาใช้เป็นของเล่น 51 ตัวอย่าง จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้า ท้องตลาด และบริเวณหน้าโรงเรียน ในเขตพื้นที่กทม.และในเว็บไซต์ห้างออนไลน์ ในเดือนพ.ค.62 ส่งตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารทาเลต (phthalates) 6 ชนิด ที่สกัดได้จากพลาสติก ยาง และสารเคลือบจากผิวของเล่นที่เด็กอาจสัมผัส น.ส.สารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวว่า จากการทดสอบของเล่น 51 ตัวอย่าง แบ่งเป็น กลุ่มที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) 19 ตัวอย่าง และกลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. 32 ตัวอย่าง พบว่า กลุ่มที่มีเครื่องหมาย มอก. พบทาเลตเกินกว่าค่ามาตรฐานสากล 7 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 36.84 ส่วนกลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. พบทาเลตเกินเกณฑ์ 11 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 34.38 ซึ่งหากคิดโดยรวมจะมีของเล่นที่พบทาเลตเกินมาตรฐาน 18 จาก 51 ตัวอย่าง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 35 โดยสหภาพยุโรป ได้กำหนดมาตรฐานของเล่นทั่วไป และของเล่นสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบ ที่มีส่วนที่นำเข้าปากได้ ว่าต้องมีปริมาณรวมสูงสุดของอนุพันธ์ทาเลต ไม่เกินร้อยละ 0.1 โดยมวล สำหรับชนิดของทาเลตที่พบมากที่สุดในการสุ่มตรวจครั้งนี้ คือ บิส-2-เอทิลเฮกซิลทาเลต หรือ bis-(2-ethylhexyl phthalate) หรือ DEHP โดยแบ่งกลุ่มของเล่นออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มที่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจไม่พบทาเลต หรือพบแต่ไม่เกิน 0.1 (ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 12 ตัวอย่าง ได้แก่ ยางกัดมีที่จับ (สีส้ม-เขียว) ยี่ห้อMind Care, ยางกัดเป็ด (สีชมพู) ยี่ห้อ Tesco loves baby, ยางกัด (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ Playskool baby, ตุ๊กตาพ่นน้ำ, กรุ๊งกริ๊ง (สีน้ำเงิน), ชุดตุ๊กตาไดโนเสาร์, อมยิ้มด้ามยาว, ชุดทำอาหารพลาสติก, ตุ๊กตากระต่าย (สีเหลือง), หุ่นยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่, ชุดผลไม้ผ่าครึ่ง และตุ๊กตาช้าง (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ NB Toys 2. กลุ่มที่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจพบทาเลตเกิน 0.1 (เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 7 ตัวอย่าง ได้แก่ พะยูนสีเขียว (35.73), แมวน้ำสีชมพู (34.51), ยางบีบ ผลไม้ (33.17), ตุ๊กตาเป็ดสีเหลือง ยี่ห้อ Baby gift set (30.34), ตุ๊กตาหมี (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ NB Toys (27.529), ตุ๊กตาไก่สีเหลือง (22.593) และชุดบล็อกต่อ (12.94) 3.กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจไม่พบทาเลต หรือ พบแต่ไม่เกิน 0.1 (ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด)21 ตัวอย่าง ได้แก่ ช้อน (สีแดง), พวงกุญแจม้า (สีเหลือง), ช้าง (สีส้ม), หมี (สีเทา), ไดโนเสาร์ (สีชมพู), ลูกบอลยาง (มีไฟกะพริบ), ลูกบอลยาง, ชุดตักดิน, ตุ๊กตาสัตว์เล็ก, แหวนยาง, ตุ๊กตาหนู (สีม่วง-เทา), แม่เหล็กผีเสื้อ, พวงกุญแจโมชิ (สีชมพู), ยางกัดทรงห่วงกลม, ยางกัดลายแมว, ยางกัดน้ำfin, ที่กัดเด็ก, ยางกัดยีราฟ (สีเหลือง), ยางกัดรูปหัวใจ (สีแดง-เขียว), ตัวต่อไดโนเสาร์ และรถตักดิน 4. กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจพบทาเลตเกิน 0.1 (เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 11 ตัวอย่าง ได้แก่ ยางบีบหมู (37.863), พวงกุญแจสไปเดอร์แมน (36.688), แรคคูณสีเหลือง (36.422), สายรัดข้อมือสีชมพู (33.84), ตุ๊กตาบีบสัตว์ (33.18), เป็ดสีเหลือง (28.436), ตุ๊กตาเจ้าหญิง (18.83), พวงกุญแจจระเข้ (17.56), ตุ๊กตาเจ้าหญิง (9.485), พวงกุญแจยางไดโนเสาร์ (5.43) และตุ๊กตาม้า (2.92) ทั้งนี้ โดยเฉพาะของเล่นประเภทตุ๊กตาบีบได้รูปสัตว์ชนิดต่างๆ พบว่ามีค่าทาเลตสูงมาก เช่น ยางบีบหมู ซึ่งพบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 37.86 (หน่วยเป็นร้อยละเศษส่วนโดยมวล) แรคคูนสีเหลือง พบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 36.42 และ พะยูนสีเขียว พบปริมาณทาเลตรวม เท่ากับ 35.74 รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผอ.ศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า ทาเลต เป็นกลุ่มของสารที่ใช้ผสมในพลาสติกชนิดพีวีซีเพื่อเพิ่มภาวะการคืนรูป ทาเลตมีหลายชนิด บางชนิดจัดว่าเป็นพิษต่อระบบการสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อของร่างกาย โดยกลไกออกฤทธิ์จะต้านแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งในไทย สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมได้จัดทำร่างแก้ไขมาตรฐานของเล่น มอก. 685/2540 มากว่า 22 ปีแล้ว ในฉบับร่างได้บรรจุเรื่องการควบคุมการใช้สารทาเลตไว้ 6 ชนิด กำหนดไม่ให้เกินร้อยละ 0.1 โดยมวล และเตรียมห้องทดสอบไว้พร้อมตรวจเมื่อมีการประกาศใช้มาตรฐาน ร่างฉบับดังกล่าวมีกระบวนการจัดทำมาอย่างละเอียดและใช้เวลานานหลายปี คาดว่าในปลายปี 2562 จะประกาศใช้ นอกจากนั้น หลังประกาศใช้ ควรหาข้อตกลงใหม่ในการพัฒนาระบบการตรวจสอบของเล่นหลังการวางตลาดให้เข้มข้นขึ้น ปัจจุบันเน้นตรวจก่อนการวางตลาดว่าเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ เป็นหน้าที่ของสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งมีภารกิจกำหนดมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมคุณภาพผลิตภัณฑ์ อันจะส่งผลต่อเนื่องสู่การค้าขาย การส่งออก ทำให้การตรวจหลังการวางตลาดแล้วมีน้อยมาก หน่วยงานอื่นไม่สามารถเข้ามาตรวจได้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือแม้แต่องค์กรท้องถิ่นเอง ก็ไม่สามารถส่งของเล่นที่วางขายในตลาดเพื่อตรวจสอบในห้องแลปได้ รศ.นพ.อดิศักดิ์กล่าว