"โกลเบล็ก"ประเมินหุ้นไทยแกว่งผันผวนต่อเนื่อง เหตุนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์การสหรัฐสั่งระงับสิทธิ GSP สินค้าไทยมีผลบังคับใช้ 25 เม.ย.63 กระทบตัวเลขส่งออก 0.01% ล่าสุดคลังลดคาดการณ์ GDP ปี 62 เหลือ 2.8% และปี 63 อยู่ที่ 3.3% ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,585-1,615 จุด แนะนำกลยุทธ์ลงทุน Defensive Stock Beta <1 yield >5% ส่วนราคาทองคำขายทำกำไรที่แนวต้าน 1,520-1,540 ดอลลาร์ พร้อมจับตาเฟดลดดอกเบี้ยเหลือ 1.75% ในการประชุมปลายเดือนต.ค.นี้ ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยว่ายังมีความผันผวนในช่วงขาลงต่อเนื่อง เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน และกังวลกับกรณีที่สหรัฐสั่งระงับสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP)สินค้าไทย มีผลบังคับใช้ 25 เม.ย.63 โดยให้เหตุผลว่าไทยล้มเหลวในเรื่องการให้สิทธิแรงงานตามหลักสากล ส่งผลมีภาระภาษีเพิ่ม 1.5-1.8 พันล้านบาทและกระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินสถานการณ์ดังกล่าวว่าจะส่งผลต่อการส่งออกประมาณ 0.01% ซึ่งถือว่าเป็นผลกระทบที่น้อยมาก ทั้งนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้มีการณ์ลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้เหลือ 2.9% จากครั้งก่อน 3.5% ส่วนปี 2563 คาดการณ์ GDP โตที่ระดับ 3% และทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังของกระทรวงการคลังได้มีการปรับลดประมาณการ GDP ปี 2562 เหลือ 2.8% และปี 2563 ที่ระดับ 3.3% ดังนั้นจึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,585-1,615 จุด นอกจากนี้ควรจับตาในประเด็นด้านเศรษฐกิจอื่นๆอย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 29 ต.ค.สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม และทางสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.62 ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือนก.ย.นี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ส่วนในวันที่ 31 ต.ค.62 ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันในวันที่ 29-30 ต.ค.62 ธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) ประชุมนโยบายการเงิน ซึ่งจะทราบผลวันที่ 31 ต.ค.นี้เวลาในประเทศไทยคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และวันเดียวกันทางธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กกล่าวว่า ปัจจัยบวกในขณะนี้แม้ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า ทั้งสองฝ่ายต่างเปิดเผยว่าใกล้จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าบางส่วนในขั้นแรก รวมทั้งทางรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ยืนยันมาตรการ“ชิม ช้อป ใช้”ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยการท่องเที่ยวเป็นเม็ดเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ขอแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเด่นเดือนต.ค.62 เช่น JUBILE,ARROW และ TNP รองลงมาหุ้นได้ประโยชน์จากโครงการชิม ช้อป ใช้เช่น ROBINS,BJC,MAKRO,SPA ERW,TNP และ CPALL รวมทั้งหุ้น Defensive Stock (Beta <1 yield >5%)เช่น TISCO,SPF RSP,TWPC,DIF และ GPI นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กกล่าวว่า ราคาทองคำ แนะนำให้ถือสถานะที่มีและมีจุดขายทำกำไรที่แนวต้าน 1,520-1,540 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทย 21,750-22,060 บาทต่อบาททองคำ โดยมีประเด็นบวกจากคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค.62 จาก 2.00% สู่ 1.75% เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ลุล่วงไปด้วยดีทำให้นักลงทุนถือครองทองคำลดลง อีกทั้งกองทุน SPDR ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มชะลอการซื้อทองคำ