วันที่(25 ต.ค.62 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์วชิระ บถพิบูรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ออกมาเปิดเผยว่าในขณะนี้สถานการณ์ การแพร่ระบาดและจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ พบมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ซึ่งพบมีผู้ป่วยแล้ว 2,341 ราย เสียชีวิตรายแรกเป็นเด็กอายุ 12 ปี ที่ผ่านมาไม่ถึงเดือนแล้ว 1 ราย และล่าสุดยังพบมีเด็กเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย รวมเป็น 2 รายติดต่อกันไม่นาน ซึ่งรายล่าสุดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเด็กชายวัย 12 ปี 8 เดือน ในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งผู้เป็นแม่ได้นำลูกชายนำรักษาตัวที่รพ.ชัยภูมิได้เพียง 3 วันก็ได้เสียชีวิตลง และที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือจากการเฝ้าติดตามการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก พบว่ายุงลายมีพฤติกรรมการออกหากินทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ที่เปลี่ยนไปมากที่จากเดิมจะออกหากินเฉพาะกลางวัน และการออกหากินก็ไม่เว้นทุกฤดูมากขึ้น จนทำให้ปีนี้มีผู้ป่วยตลอดทั้งปี และทุกวัยอายุพบผู้ป่วยแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 2,341 ราย อายุที่พบสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 10-14 ปี รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 5 – 9 ปี อําเภอที่พบมีอัตราป่วยสูงสุด คือ ซับใหญ รองลงมา คือ อ.แก้งคร้อ และเมืองชัยภูมิ สูงเป็นอันดับ 2 ในเขตบริการสุขภาพที่ 9 หรือเขตนครชัยบุรินทร์ และอันดับ 22 ของประเทศ มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ยังบอกอีกว่า สถานการณ์พบผู้ป่วยไข้เลือดออกในปีนี้ มีแนวโน้มการระบาดอย่างต่อเนื่องสูงขึ้น แม้จะเข้าหน้าหนาวในปีนี้แล้วก็ตาม จึงอยากจะฝากย้ำเตือนประชาชนทุกพื้นที่ ควรช่วยกันเข้มงวดเฝ้าระวังกันให้มากขึ้น ทั้งการช่วยกันกำจัดแหล่งแพร่ระบาดของลูกน้ำยุงลาย ร่วมมือกันกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไม่ให้มีน้ำขังตามกะโหลกกะลา เพื่อตัดวงจรการขยายพันธ์ของยุงลายพานะนำโรคนี้กันให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อเป็นการช่วยกันป้องกันการเกิดโรคไข้เลือดออกในปีนี้ ให้ลดลงให้ได้ ขอให้มีการเข้มปฏิบัติตามมาตรการ 5 ป 1 ข. คือ ปิด เปลี่ยน ปล่อย ปรับปรุง ปฏิบัติเป็นประจำ 1 ข คือการขัดล้างภาชนะก่อนเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกสัปดาห์ เพื่อกำจัดไขยุงที่เกาะอยู่ภายในภาชนะ และชุมชนสะอาดปราศจากแหล่งเพาะพันธ์ลูกนำยุงลาย ภายใต้ เก็บให้เกลี้ยง ไม่เลี้ยงยุงลาย ซึ่งผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออก หากรักษาไม่ทันจะเกิดภาวะช็อก เป็นเหตุให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วตามมาได้ ซึ่งหากบุตรหลานมีอาการป่วยเป็นไข้ 2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที ซึ่งถ้าตรวจพบเป็นไข้เลือดออกได้เร็วการช่วยรักษาก็จะช่วยลดสูญเสียชีวิตลงได้ทันท่วงทีอีกทางได้ด้วย///