โครงการอบรมยุวนารีช่อสะอาด ณ โรงเรียนบ้านท่าคอยนาง ต.สวาย อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ระหว่าง 23--25เดือนตุลาคม พ.ศ.2562 จัดโดยมูลนิธิต่อต้านการทุจริต และหลักสูตรปริญญาเอกสันติศึกษา ม.มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการวิจัยในระดับปริญญาเอกของนิสิต ในโอกาสนี้ ร.ศ.ดร.พระอาจารย์มหาหรรษา ธมฺมหาโส ประธานฝ่ายสงฆ์กล่าวเปิดโครงการ ว่า ที่ผ่านมาเราพัฒนาเด็กผู้ชายผ่านการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนช่อสะอาด เราจึงตระหนักถึงยุวนารีในเขตอำเภอปรางค์กู่ ที่ควรได้รับการพัฒนาให้มีความสะอาด 4ประการ ประกอบด้วย 1) กายสะอาด คือ ด้านสิ่งแวดล้อม เกษตรอินทรีย์ ด้านอาชีพสุจริต มี ดาบฯวิชัยเป็นต้นแบบในการรักษาสิ่งแวดล้อม 2) พฤติกรรมสะอาด คือ มีศีล 5 เป็นพื้นฐาน ไม่โหดร้าย ไม่มือไว ไม่ใจอยาก ไม่ปากชั่ว ไม่มัวเมา 3) จิตใจสะอาด คือ การพัฒนาด้านภายใน เราแต่งชุดขาวเพื่อเตือนใจว่าเราต้องระวัง เหมือนใจเราต้องขาวเหมือนชุดของเรา เรามาซักใจตนเองเพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน รักษาใจให้ดี 4) ปัญญาสะอาด คือ ปัญญาที่ไม่ทุจริตใดๆ จิตใจที่สะอาดจะนำไปสู่ปัญญาสะอาด ความสุจริตจึงเป็นพื้นฐานแห่งความดีงาม ดังนั้น ยุวนารีช่อสะอาดจะต้องพัฒนาไปให้ถึง 4 คำ คือ #พอเพียง #สะอาดโปร่งใส #ไร้ทุจริต #จิตอาสา โครงการยุวนารีช่อสะอาด จึงเกิดขึ้นด้วยความรักและปรารถนาดีต่อลูกหลานชาวปรางค์กู่ ปลัดอาวุโสอำเภอปรางค์กู่กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานต่อประธานในพิธีว่า ชาวปรางค์กู่เป็นคนที่มีความสุข เพราะเราใช้เกษตรอินทรีย์ และมีพระสงฆ์ที่เป็นนักพัฒนาด้านจิตใจเป็นผู้ให้การฝึกฝนอบรม ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต กล่าวเปิดโครงการยุวนารีช่อสะอาด ว่า ขอชื่นชมฝ่ายบ้านเมืองที่ให้ความใส่ใจงานพัฒนาเยาวชนช่อสะอาด ซึ่งแรกเริ่มเราพัฒนาเยาวชนชายให้ได้บรรพชาเป็นสามเณร บัดนี้ได้มีการพัฒนาสตรีผ่านโครงการยุวนารีช่อสะอาด บ้านท่าคอยนางถือว่าเป็นหมู่บ้านช่อสะอาดต้นแบบ และปีนี้ได้ขยายเป็นตำบลช่อสะอาด และมุ่งหมายที่จะเป็นอำเภอช่อสะอาดต่อไป โดยพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน ในแบบระเบิดจากภายใน ด้วยหลักการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ตามแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 เหล่ายุวนารีจะต้องพัฒนาจิตใจให้สะอาด โดยเริ่มจากกำหนดรู้ความดีและไม่ดีของตนเอง จึงจะรู้เท่าทันสิ่งที่มากระทบ เราสามารถรู้ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน จนถึงขั้นสูงคือต้องฝึกการหยั่งรู้ ว่าคนนี้ดี คนนี้ชั่ว ข้อมูลมีมากมายในสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นขยะ จึงต้องมีสติ รู้จักแยกแยะ ในฐานะคนรุ่นใหม่ต้องฝึกสติ สติจะกรองให้ชีวิตเราดีขึ้น เหมือนจดหมายอีเมล์ที่มีถังขยะกลั่นกรอง พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า” แสดงเห็นว่าทรงให้เราเป็นผู้มีสติ อันเป็นการรู้เท่าทันสภาวะของจิต โดยการฝึกฝนจนดวงจิตสว่างไสวดุจพระอาทิตย์ในยามเช้า และดุจพระจันทร์ในยามค่ำคืน ที่ไร้เมฆบัง การค้นหาวัตถุภายนอก เราสามารถค้นพบได้โดยง่าย แต่การค้นหาจิตที่อยู่ภายในตัวเราเป็นเรื่องยากยิ่ง กระนั้นก็สามารถฝึกฝนได้ เหมือนการฝึกในโครงการยุวนารีช่อสะอาดนี้ นั่นเองวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติ คล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงวางรากฐานความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทุกอย่าง มาให้แก่บ้านเมือง จนเป็นปึกแผ่นมั่นคงตราบทุกวันนี้ เราจึงจัดโครงการยุวนารีช่อสะอาดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ อันเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดความเท่าเทียมกันของชายและหญิงในการเข้าถึงหลักธรรมคำสอนตามแนวทางของบวรพุทธศาสนา ขอให้โครงการนี้จงรุ่งเรืองสถาพรสืบไป ขอขอบคุณ บทสรุปที่ได้เนื้อหาครบถ้วนของพระปราโมทย์ วาทโกวิโท อาจารย์ประจำหลักสูตรสันติศึกษา ณ โรงเรียนบ้านท่าคอยนาง ศรีสะเกษ 23 ตุลาคม 2562