ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ Thirachai Phuvanatnaranubala ระบุว่า...
“นับหนึ่งไปถึงกำหนดส่งมอบพื้นที่” เมื่อวานนี้ ท่านนายกฯ เป็นประธานในงานประวัติศาสตร์ ที่มีผลเป็นการขายแผ่นดินที่ ร.5 พระราชทานไปให้เอกชน จึงเริ่มนับหนึ่งกำหนดส่งมอบพื้นที่ นายคณิศ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่าจะส่งมอบเป็น 3 ช่วง ได้แก่ -ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิหรือรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ในปัจจุบัน ส่งมอบได้เลย -ช่วงสนามบินสุวรรณภูมิ-สนามบินอู่ตะเภา ระยะทางยาวที่สุด 170 กิโลเมตร จะต้องส่งมอบให้ได้ภายใน 2 ปี แต่จะพยายามส่งมอบภายใน 1 ปี 3 เดือน -ช่วงพญาไท-สนามบินดอนเมือง จะต้องส่งมอบไม่เกิน 4 ปี แต่จะพยายามส่งมอบภายใน 2 ปี 3 เดือน นายคณิศระบุด้วยว่า อัยการสูงสุดได้เตือนตั้งแต่แรกว่า หลายโครงการมีปัญหาส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างล่าช้า เพราะฉะนั้นคณะกรรมการนโยบาย EEC จึงดึงเรื่องนี้มาดำเนินการเอง ดังนั้น ถ้าส่งมอบไม่ทัน สกพอ. ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แม้จะอ้างเหตุสุดวิสัยก็ไม่พ้นผิด เพราะการไม่เผื่อเวลาให้พอเพียง คือความประมาทเลินเล่อ นอกจากนี้ ไม่น่าเชื่อว่า แม้จะเซ็นสัญญาไปแล้ว ก็ยังมีการยึกยักเรื่องเปิดเผยสัญญาและทีโออาร์ โดยข่าวระบุว่า “ สำหรับกรณีที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้เปิดเผยสัญญา PPP ให้ประชาชนรับทราบนั้น นายวรวุฒิกล่าวว่า การเปิดเผยสัญญาต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยฝ่ายกฎหมาย ของ EEC จะเป็นผู้ให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ ขอให้ใจเย็นๆ” เมื่อวานนี้ สหภาพแรงงานรถไฟฯ แจ้งผมว่าได้อ้าง พรบ.ข้อมูลข่าวสาร ขอเอกสารไปตั้งแต่กลางปี จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น การหาประโยชน์จากที่มักกะสันก็จะเริ่มทันที ดังปรากฏในข่าว นายศุภชัยกล่าวถึงแผนพัฒนาพื้นที่มักกะสันขนาด 150 ไร่ว่า เบื้องต้นมีแผนในการพัฒนาสถานีรถไฟและอสังหาริมทรัพย์ขนาด 2 ล้านตารางเมตร ด้วยมูลค่าการลงทุน 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างเป็นพื้นที่ค้าปลีก ศูนย์ประชุม โรงแรม ฯลฯ นั้น จะเริ่มตอกเสาเข็มภายใน 1 ปี เนื่องจากต้นทุนที่ดินคิดเป็นเพียง 10-15% ของราคาตลาด จึงน่าคิดว่า กำไรจะเกินวงเงินลงทุน 1.4 แสนล้านไปอีกเท่าไหร่ เมื่อครบ 1 ปี 3 เดือน ถ้าหากส่งมอบพื้นที่ไม่ทัน อันทำให้ ร.ฟ.ท. เสียหาย ประชาชนก็ตัองช่วยกัน...ตระกูลของพลเอกประยุทธ์ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เพื่อมิให้มาเป็นค่าโง่ใส่ประชาชน วันที่ 25 ตุลาคม 2562 ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล Facebook Thirachai Phuvanatnaranubala