"ไพบูลย์" อัด "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" ก้าวล่วงพระราชอำนาจ หลังใช้ กมธ.ปปช. เชิญ "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" ถกปมถวายสัตย์ ขู่อาจถูกยื่น157 วันที่ 25 ต.ค. 62 นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เห็นว่า กรณีเมื่อวานนี้ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ใช้อำนาจเรียกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 30 พ.ย. เวลา 10 .00 น. เพื่อมาให้ข้อมูลถึงการถวายสัตย์ฯถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่นั้น นายไพบูลย์เห็นว่า คณะกรรมาธิการป้องและปราบปรามการทุจริตฯไม่มีอำนาจที่จะเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเพื่อตรวจสอบในเรื่องเกี่ยวข้องกับการถวายสัตย์ปฏิญาณ เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้ในคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2462 แล้วว่า “การถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด” ซึ่งย่อมหมายรวม สภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการของสภาด้วย โดยเหตุที่การถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเรื่องในขอบเขตพระราชอำนาจ เป็นพระบรมราชวินิจฉัยโดยเฉพาะ ผู้ใดหรือองค์กรใดไม่อาจก้าวล่วงได้ ดังนั้น คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร จึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการตรวจสอบ เพราะเป็นการมิบังควรที่จะก้าวล่วงเขตพระราชอำนาจ ที่ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยแล้ว จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯยกเลิกมติที่ประชุมดังกล่าวและยกเลิกหนังสือเรียกพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อที่คณะกรรมาธิการฯจะไม่ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีอำนาจ ซึ่งมีผลให้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันอาจเป็นเหตุให้คณะกรรมาธิการฯถูกยื่นเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.)ได้