ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครปฐม บุกรวบพระต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองมาบิณฑบาตขอเงินจากชาวบ้าน โดยระหว่างกำลังจะทำการสึกพระเณร ต่างด้าว มีพระพระธีรนัชรฤทธา เสาวภาคย์โชติรส หรือพระปีนเสา ที่เคยเป็นข่าวดัง เข้ามาขอบิณฑบาตให้ปล่อยพระต่างด้าว ก่อนจะมีปากเสียงกับสื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าวและเดินหนีหายไปจากกองกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยทางจ้าหน้าที่ได้ทำการสึกและส่งดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
วันนี้ 22 ตุลาคม 2562 พ.ต.อ.ประวิทย์ ศิริธร ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีบุคคลต่างด้าว ลักษณะคล้ายพระสงฆ์ เดินบิณฑบาตในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีพฤติการณ์รับแต่ปัจจัย (เงินสด) และไม่รับสิ่งของหรือจากประชาชนทั่วไป โดยส่วนใหญ่ขอเป็นปัจจัยเงินสด จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปรามตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม เข้าทำการสืบหาข้อมูลกระทั่งพบว่า ที่ สำนักปฏิบัติธรรม พุทธชยันตี 2,600 ปี ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้มีพระและเณรที่เข้าข่ายลักษณะพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้ขอตรวจสอบและสามารถควบคุมตัวพระภิกษุและสามเณรที่เป็นชาวต่างด้าว (กัมพูชา) ประกอบด้วย 1. นาย ซกเมียน ไม่มีนามสกุล อายุ 49 ปี สัญชาติกัมพูชา 2. นาย โพน ซอน ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี สัญชาติกัมพูชา 3. ด.ช.กลม นามสมมุติ อายุ 14 ปี สัญชาติกัมพูชา 4. ด.ช.จอน นามสมมุติ อายุ 14 ปี มาทำการสอบสวน ที่กองกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม และได้ข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" เนื่องจากไม่มีการขออนุญาตเข้าประเทศ
ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสอบสวนและทำบันทึกการจับกุม มีพระธีรนัชรฤทธา เสาวภาคย์โชติรส อายุ 52 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม พุทธชยันตี 2,600 ปี ได้เดินทางเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้กล่าวขอบิณฑบาตรโดยโน้มน้าวเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 4 ราย และแสดงท่าทีไม่พอใจกับสื่อมวลชนหลายคนที่เข้ามาทำข่าวดังกล่าว และได้มีปากเสียงเถียงกันกับผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง ก่อนจะแสดงท่าทีไม่พอใจและสอบถามไปยังเจ้าหน้าตำรวจว่าใครเป็นผู้ที่ตามสื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวในคดีนี้ ก่อนจะเห็นสื่อมวลชนเริ่มจะเข้ามาทำข่าวเพิ่มขึ้นและเดินหลบหายออกไปจากกองกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐมในช่วงกลางดึก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนิมนต์ พระและสามเณรทั้งหมดที่ถูกจับกุม ไปทำการลาสิกขาเนื่องจากกระทำผิดกฎหมายและจะได้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ให้ที่พักพิงกับคนต่างด้าวโดยผิดกฎหมายต่อไปอีกด้วย
สำหรับ พระธีรนัชรฤทธา เสาวภาคย์โชติรส อายุ 52 ปี หรือ (พระปีนเสา) ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี เคยตกเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา โดยได้ปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์เพื่อประท้วงเจรจากับธนาคารเรื่องที่ดิน ภายในสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 22 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยมาเจรจาและต่อรองกันข้ามวันข้ามคืนยาวนานกว่า 30 ชั่วโมง โดยมี ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และกลุ่มอาสาสมัครร่วมกตัญญูในพื้นที่ต่างเข้ามาช่วยเหลือ พยายามช่วยเกลี้ยกล่อมในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย
วันนี้ 22 ตุลาคม 2562 พ.ต.อ.ประวิทย์ ศิริธร ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีบุคคลต่างด้าว ลักษณะคล้ายพระสงฆ์ เดินบิณฑบาตในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีพฤติการณ์รับแต่ปัจจัย (เงินสด) และไม่รับสิ่งของหรือจากประชาชนทั่วไป โดยส่วนใหญ่ขอเป็นปัจจัยเงินสด จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปรามตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม เข้าทำการสืบหาข้อมูลกระทั่งพบว่า ที่ สำนักปฏิบัติธรรม พุทธชยันตี 2,600 ปี ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้มีพระและเณรที่เข้าข่ายลักษณะพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้ขอตรวจสอบและสามารถควบคุมตัวพระภิกษุและสามเณรที่เป็นชาวต่างด้าว (กัมพูชา) ประกอบด้วย 1. นาย ซกเมียน ไม่มีนามสกุล อายุ 49 ปี สัญชาติกัมพูชา 2. นาย โพน ซอน ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี สัญชาติกัมพูชา 3. ด.ช.กลม นามสมมุติ อายุ 14 ปี สัญชาติกัมพูชา 4. ด.ช.จอน นามสมมุติ อายุ 14 ปี มาทำการสอบสวน ที่กองกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม และได้ข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" เนื่องจากไม่มีการขออนุญาตเข้าประเทศ
ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสอบสวนและทำบันทึกการจับกุม มีพระธีรนัชรฤทธา เสาวภาคย์โชติรส อายุ 52 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม พุทธชยันตี 2,600 ปี ได้เดินทางเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้กล่าวขอบิณฑบาตรโดยโน้มน้าวเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 4 ราย และแสดงท่าทีไม่พอใจกับสื่อมวลชนหลายคนที่เข้ามาทำข่าวดังกล่าว และได้มีปากเสียงเถียงกันกับผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง ก่อนจะแสดงท่าทีไม่พอใจและสอบถามไปยังเจ้าหน้าตำรวจว่าใครเป็นผู้ที่ตามสื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวในคดีนี้ ก่อนจะเห็นสื่อมวลชนเริ่มจะเข้ามาทำข่าวเพิ่มขึ้นและเดินหลบหายออกไปจากกองกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐมในช่วงกลางดึก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนิมนต์ พระและสามเณรทั้งหมดที่ถูกจับกุม ไปทำการลาสิกขาเนื่องจากกระทำผิดกฎหมายและจะได้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ให้ที่พักพิงกับคนต่างด้าวโดยผิดกฎหมายต่อไปอีกด้วย
สำหรับ พระธีรนัชรฤทธา เสาวภาคย์โชติรส อายุ 52 ปี หรือ (พระปีนเสา) ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี เคยตกเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา โดยได้ปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์เพื่อประท้วงเจรจากับธนาคารเรื่องที่ดิน ภายในสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 22 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยมาเจรจาและต่อรองกันข้ามวันข้ามคืนยาวนานกว่า 30 ชั่วโมง โดยมี ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และกลุ่มอาสาสมัครร่วมกตัญญูในพื้นที่ต่างเข้ามาช่วยเหลือ พยายามช่วยเกลี้ยกล่อมในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย