เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ส.ค.59 ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก.รรท.ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์ รองผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติ สว.กก.4 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว นายพิเชษฐ คูคณารักษ์ประยูร อายุ47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2514/2558 ลงวันที่ 15 ธ.ค. 2558 ในฐานความผิด “ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นที่ผู้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการหรือหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสดโดยมิชอบในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” โดยสามารถจับกุมได้ที่ ซ .โยธินพัฒนา แขวงและเขตลาดพร้าว พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย 35 คน มูลค่าความเสียหาย 600,000 บาท เดินทางเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนว่าถูกนายพิเชษฐ หลอกให้เข้าทำงาน ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับการรับจัดงานกิจกรรมโรดโชว์ ออกบูธ งานอีเว้นท์ โดยมีการเปิดรับสมัครในตำแหน่งต่าง ๆ อาทิเช่น ประชาสัมพันธ์ , ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ คนขับรถ และทีมงานอื่น ๆ ทั้งนี้ในแต่ล่ะตำแหน่งก็จะได้เงินค่าจ้างแตกต่างกันไป โดยช่วงแรกนายพิเชษฐ ได้จ่ายค่าแรงตามปกติ แต่ต่อมากลับไม่ยอมจ่ายเงินให้แต่อย่างใด มีบางรายได้เงินค่าจ้างมาเป็นเช็คธนาคารแต่ปรากฎว่าเมื่อเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคารพบว่าไม่สามารถขึ้นเงินได้ นอกจากนี้ทางนายพิเชษฐ ยังอ้างกับทางพนักงานว่าผู้ว่าจ้างไม่จ่ายเงินให้กับบริษัท แต่ตรวจสอบพบว่ามีการจ่ายเงินมาแต่นายพิเชษฐไม่ยอมจ่ายเงินให้กับพนักงาน จากนั้นก็จะปิดบริษัทหนี และใช้วิธีรูปแบบเดิม ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าเปิดบริษัทมาหลายชื่อ อาทิ บริษัท กรุ๊ปดี มีเดีย จำกัด , บริษัท พีดับบลิว ริช และ Megano Co,Ltd อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนได้สืบทราบความเคลื่อนไหวของนายพิเชษฐ และจับกุมภายในบริเวณดังกล่าว ด้าน นายวีระพงษ์ สืบทายาท อายุ 27 ปี ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้ไปสมัครงานกับบริษัทของนายพิเชษฐ โดยมีการส่งประวัติส่วนตัวและประวัติการทำงาน ซึ่งได้เข้าไปได้ 2 เดือน ทางบริษัทก็จ่ายเงินให้ตามปกติ แต่เดือนที่ 3 กลับไม่มีการจ่ายเงิน โดยเมื่อทวงถามไปนายพิเชษฐก็บ่ายเบี่ยงที่จะจ่าย อ้างว่ายังไม่ได้รับเงินจากลูกค้าบ้าง ซึ่งตนก็ได้มีการเจรจามาโดยตลอด จนสุดท้ายทางได้มีการสั่งจ่ายเช็คล่วงหน้า 3 เดือน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถขึ้นเงินได้ ก็ได้มีการติดต่อไปสอบถามนายพิเชษฐ ก็ไม่ได้รับคำตอบ ผกก.4บก.ป. กล่าวว่า โดยในกรณีพบความเสียหาย 6 แสนบาท ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากมูลค่านับล้าน จึงอยากจะขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เคยตกเป็นเหยื่อของบริษัทดังกล่าว หรือเคยถูกนายพิเชษฐ หลอกสมัครงาน เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่กองบังคับการปราบปราม อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.โชคชัยดำเนินคดีต่อไป