กาญจนบุรี ตะคริวพาตายชายชราวัย 62 จมน้ำเสียชีวิต ข้าวปลาไม่กินดื่มสุราทั้งคืน รุ่งเช้าถอดเสื้อเดินลงสระดินหลังเพิงพักข้างสระน้ำเพื่อวางตะครัดดักปลาแล้วหายไป ตอนสาย ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากเห็นหายไปเดินค้นหาไปเจอแต่เสื้อกับถุงยาเส้น นึกเอะใจจมน้ำหายแน่นอนแจ้งอาสามูลนิธิในหมู่บ้านประสานนักประดาน้ำลงงมค้นหาจนเจอศพนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้น้ำ แจ้งตำรวจประสานแพทย์ รุดชันสูตร คาดตะคริวและตะครัดที่พันขาและแขนเป็นตัวการทำให้จมน้ำเสียชีวิต มอบศพดำเนินการตามประเพณีทางศาสนา
เวลา 10.00 น.ของวันที่ 21 ต.ค.62 ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ เอี่ยมจงจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจบ้านทุ่งสมอว่า เกิดเหตุมีชาวบ้านลงไปวางตะครัดดักปลาแล้วจมน้ำหายไปในสระน้ำหลังเพิงพักบ้านดอนบ้านเก่า หมู่ 2 ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวนฯ คาดว่าคงจมน้ำเสียชีวิตแล้ว
หลังรับแจ้งจึงวิทยุประสานไปยังมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ) เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมาทำการลงงมค้นหาร่างของผู้สูญหายภายในน้ำ
โดยใช้เวลาในการลงงมค้นหาอยู่นานเพียง 20 นาทีก็พบร่างของผู้เสียชีวิตรายนี้นอนคว่ำหน้าจมอยู่ในสระน้ำที่บางแห่งลึกประมาณ 2-3 เมตรใต้ต้นมะขามเทศในสภาพที่ขาและแขนข้างซ้ายมีสายตะครัดพันอยู่ จึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาไว้บกบก
สอบสวนปากคำนางส้มเขียว กิจธนากำจร อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตายทราบชื่อผู้ตายชื่อนายบุญช่วย กิจธนากำจร อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 2 ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผู้ตายมีอาชีพทำนา เลี้ยงวัวและเลี้ยงแพะ โดยนางส้มเขียว ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวร รพ.ท่านเจ้าคุณไพบูลย์ ว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น.ตนได้มาหานายบุญช่วย สามี ซึ่งนอนเฝ้าฝูงวัวอยู่ที่เพิงพักข้างสระขุดอยู่เป็นประจำทุกคืน แต่มาไม่เจอ เจอแต่เสื้อและถุงใส่ยาเส้น จึงร้องตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีวี่แววของสามี จึงออกเดินตามหาก็ไม่เจอ
ตนสงสัยว่า สามีอาจจะลงไปวางตะครัดแล้วจมน้ำก็เป็นได้ เพราะปดติสามีไม่เคยไปไหน สามีเป็นคนชอบกินเหล้าตอนช่วงเย็น ข้าวปลาไม่ค่อยกิน จึงกลับบ้านและวานให้ลูกๆ หลานๆ ให้ ไปบอกพวกเด็กๆ ที่ทำมูลนิธิฯ อยู่ในหมู่บ้านขอแรงให้มาช่วยกันตามหาหน่อย ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ก็ไปได้ไปแจ้งตำรวจที่ป้อม และนักประดาน้ำก็มาลงงมค้นหาจนกระทั่งเจอศพ
จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นตามร่างกายของผู้ตายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายและนางส้มเขียว ภรรยารวมทั้งญาติๆ ไม่ติดใจสงสัยในสาเหตุการตาย ส่วนสาเหตุการตายเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์สันนิษญานว่า สาเหตุน่าจะมาจากผู้ตายอาจจะเป็นตะคริวขณะลงน้ำวางตะครัดดักปลา หรือไม่ขณะวางตะครัด ผู้ตายอาจจะถูกสายตะครัดพันขาอละแขนจนทำให้จมน้ำเสียชีวิตก็เป็นได้ จึงมอบศพให้ภรรยาและญาตินำศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
............................
หลังรับแจ้งจึงวิทยุประสานไปยังมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ) เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมาทำการลงงมค้นหาร่างของผู้สูญหายภายในน้ำ
โดยใช้เวลาในการลงงมค้นหาอยู่นานเพียง 20 นาทีก็พบร่างของผู้เสียชีวิตรายนี้นอนคว่ำหน้าจมอยู่ในสระน้ำที่บางแห่งลึกประมาณ 2-3 เมตรใต้ต้นมะขามเทศในสภาพที่ขาและแขนข้างซ้ายมีสายตะครัดพันอยู่ จึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาไว้บกบก
สอบสวนปากคำนางส้มเขียว กิจธนากำจร อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตายทราบชื่อผู้ตายชื่อนายบุญช่วย กิจธนากำจร อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 2 ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผู้ตายมีอาชีพทำนา เลี้ยงวัวและเลี้ยงแพะ โดยนางส้มเขียว ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวร รพ.ท่านเจ้าคุณไพบูลย์ ว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น.ตนได้มาหานายบุญช่วย สามี ซึ่งนอนเฝ้าฝูงวัวอยู่ที่เพิงพักข้างสระขุดอยู่เป็นประจำทุกคืน แต่มาไม่เจอ เจอแต่เสื้อและถุงใส่ยาเส้น จึงร้องตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีวี่แววของสามี จึงออกเดินตามหาก็ไม่เจอ
ตนสงสัยว่า สามีอาจจะลงไปวางตะครัดแล้วจมน้ำก็เป็นได้ เพราะปดติสามีไม่เคยไปไหน สามีเป็นคนชอบกินเหล้าตอนช่วงเย็น ข้าวปลาไม่ค่อยกิน จึงกลับบ้านและวานให้ลูกๆ หลานๆ ให้ ไปบอกพวกเด็กๆ ที่ทำมูลนิธิฯ อยู่ในหมู่บ้านขอแรงให้มาช่วยกันตามหาหน่อย ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ก็ไปได้ไปแจ้งตำรวจที่ป้อม และนักประดาน้ำก็มาลงงมค้นหาจนกระทั่งเจอศพ
จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นตามร่างกายของผู้ตายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายและนางส้มเขียว ภรรยารวมทั้งญาติๆ ไม่ติดใจสงสัยในสาเหตุการตาย ส่วนสาเหตุการตายเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์สันนิษญานว่า สาเหตุน่าจะมาจากผู้ตายอาจจะเป็นตะคริวขณะลงน้ำวางตะครัดดักปลา หรือไม่ขณะวางตะครัด ผู้ตายอาจจะถูกสายตะครัดพันขาอละแขนจนทำให้จมน้ำเสียชีวิตก็เป็นได้ จึงมอบศพให้ภรรยาและญาตินำศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
............................