“ปิยบุตร” แถลง พรรคอนค.ตั้งกก.สอบ “กวินนาถ” สั่งห้ามร่วมกิจกรรมพรรคระหว่างรอผล ชี้รธน.ทำให้ สส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ขัดแย้งกัน วันนี้ 21 ต.ค.เมื่อเวลา 13.30 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้นำส.ส.จำนวน 14 คนมาร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ภายในพรรคอนาคตใหม่ โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า กรณีของนางสาวกวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่ ทางพรรคจะดำเนินการข้อบังคับด้วยการให้คณะกรรมการตรวจสอบวินัยและจริยธรรมของพรรค ที่มีนายชำนาญ จันทร์เรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธานคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ "เนื่องจากนางสาวกวินนาถ ได้ลงมติในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสวนทางกับมติของพรรคถึงสองครั้งติดต่อกัน ซึ่งตามขั้นตอนของการตรวจสอบจะเริ่มภายหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดนครปฐม และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจะส่งให้กับคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป ซึ่งโทษของพรรคตามข้อบังคับจะมีด้วยกัน 4 ประการตามลำดับ ได้แก่ 1.ตักเตือน 2.ภาคทัณฑ์ 3.ตัดสิทธิประโยชน์บางประการของสมาชิก และ 4.ไล่ออกและขับออก" นายปิยบุตร กล่าวว่า ทั้งนี้ ในเบื้องต้นพรรคจะสั่งห้ามไม่ให้นางสาวกวินนาถดำเนินกิจกรรมใดๆกับพรรคอนาคตใหม่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของพรรค นอกจากนี้ ในนามของส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคนกล่าวขอโทษประชาชนเขต 7 ชลบุรีที่เลือกนางสาวกวินนาถ เป็นส.ส.ด้วยความหวังที่จะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับมา ตามหลักการแล้วพรรคการเมืองเป็นที่รวมตัวกันเพื่อผลักดันแนวคิดให้สำเร็จ จึงต้องมีแนวทางและอุดมการณ์ของพรรค แต่ส.ส.ที่สังกัดพรรคการเมืองย่อมต้องมีอิสระ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็รับรอง "หากเราปล่อยให้ส.ส.ลงมติอิสระโดยไม่สนมติพรรคเลย อย่างนี้ก็จะมีพรรคการเมืองไปเพื่ออะไรและส.ส.จะสังกัดพรรคไปเพื่ออะไร ส่วนการหาจุดสมดุลระหว่างแนวทางพรรคและความเป็นอิสระของส.ส.นั้น พรรคมีแนวทาง คือ พรรคจะใช้มติที่ประชุมส.ส.พรรคทุกวันอังคารในทุกบ่ายหลังจากได้มติของวิปฝ่ายค้าน เรื่องไหนเห็นตรงกันก็ไม่ต้องลงมติ แต่ถ้าเรื่องสำคัญก็เปิดโอกาสให้ถกเภียงเต็มที่ หลายครั้งผมและหัวหน้าพรรคกลายเป็นเสียงข้างน้อยแล้วแต่ประเด็น โดยจะถือเอาตามเสียงข้างมากและเคารพเสียงข้างน้อย ผมเชื่อว่าส.ส.ของพรรคทำงานด้วยกันมาหลายคนยืนยันได้ว่าที่ประชุมส.ส.ของพรรคมีการถกเถียงกันอย่างเต็มที่และเปิดโอกาสให้วิจารณ์กันเพื่อถอดบทเรียน อย่างครั้งล่าสุดที่ไปสัมมนาเพื่อถอดบทเรียน ผมและหัวหน้าอยู่ตรงกลางก็ให้ส.ส.พรรควิจารณ์ได้เต็มที่" นายปิยบุตร กล่าว เลขาธิการพรรค กล่าวว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่างส.ส.ภายในพรรคระหว่างส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ จนมีข่าวลือออกมาว่ามีส.ส.ของพรรคจะออกไปตั้งพรรคการเมืองเอง จากข่าวที่เกิดขึ้นเห็นว่าเป็นผลมาจากการออกแบบของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เชื่อว่าส.ส.แบ่งเขตไปเก็บคะแนนให้ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าส.ส.ทั้งระบบทำงานด้วยกันอย่างดี มีการสร้างกระบวนการภายในพรรคและร่วมทำงานให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค จากรายงานข่าวที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นความไม่หวังดี "การเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐมแสดงถึงความร่วมมือร่วมใจของส.ส.ทั้งสองระบบของพรรคที่ได้ร่วมกันหาเสียง น่าจะเป็นพรรคการเมืองไม่กี่พรรคที่ส.ส.ทั้งหมดไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครส.ส.คนเดียว นอกจากนี้ บทบาทของส.ส.ของพรรคได้ปรากฎให้เห็นเด่นชัด เช่น รองโฆษกพรรคสองคนเป็นส.ส.กทม.และส.ส.เชียงราย หรือประธานคณะกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎรในสัดส่วนของก็มีส.ส.เขตของพรรคไปทำหน้าที่ หรือ ส.ส.เขตของพรรคก็ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแบ่งสรรปันส่วนในการทำงาน" นายปิยบุตร กล่าว นายปิยบุตร กล่าวว่า เวลามองมาที่พรรคอนาคตใหม่ ถ้ามองด้วยมิติการเมืองแบบเก่าก็จะได้ผลแบบเก่า แต่ถ้ามองด้วยมิติการเมืองแบบใหม่จะได้การเมืองแบบใหม่ ซึ่งเราฝันกันมานานแล้วว่าพรรคการเมืองควรเป็นของสมาชิกและทุกคนที่เห็นพ้องกันในอุดมการณ์เดียวและผลักดันให้เป็นไปตามอุดมการณ์ แน่นอนว่าเรายังทำได้ไม่เต็มร้อยแต่เรามีความตั้งใจ ดังนั้น พรรคจึงไม่ได้เป็นแค่ที่อาศัยของส.ส.เพื่อลงสมัครหรือที่ที่คนมาอาศัยแบรนด์ของพรรคมาสมัครส.ส.เท่านั้น แต่เป็นที่ที่คนมีอุดมการณ์เหมือนกันมาต่อสู้ร่วมกัน เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ได้ลงมติสวนกับมติพรรคในการพิจารณาพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 จะมีการดำเนินการแบบเดียวกับนางสาวกวินนาถหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้ว แต่ขอให้เสร็จภารกิจการเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครปฐมก่อน จากนั้นจะดำเนินการต่อไป เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีอดีตสมาชิกพรรคยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่เป็นไรและไม่มีผลกระทบต่อพรรค เพราะการลาออกถือเป็นสิทธิ์ของของบุคคลที่มีความเห็นไม่ตรงกับแนวทางของพรรคการเมือง