เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ต.ค. 62 เกษตรกรที่ปลูกอ้อยในพื้นที่ จ.ราชบุรี กว่า 200 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือกับนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เพื่อผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรี ในกรณีขอราคาอ้อยเพิ่มขึ้นจากตันละ 700-800 บาท เป็น 1000 บาทต่อตัน เนื่องจากในปัจจุบันราคาน้ำตาลในตลาดโลกนั้นมีราคาตกต่ำส่งผลให้ราคาอ้อยที่เกษตรกรปลูกส่งขายให้กับโรงงานน้ำตาลนั้นได้รับค่าอ้อยราคาถูกลงไปด้วย แต่ต้นทุนการผลิตนั้นยังเท่าเดิมหรือมากขึ้นกว่า ทำให้เกษตรกรได้รับราคาค่าอ้อยที่ถูกลงมากว่า 3 ปี แล้ว สร้างคามเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่ต้องแบกรับภาระหนี้สินมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และเป็นการซ้ำเติมหนี้สินให้มีมากขึ้น จึงต้องมายื่นหนังสือขอราคาเพิ่มเพื่อให้เกษตรกรได้ขาดทุนน้อยลง ด้านนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ก็บอกว่าจากกรณีน้ำตาลในตลาดโลกมีราคาไม่ดีส่งผลให้ราคาที่รับซื้ออ้อยในฤดูกาลผลิต 2562-2563 จากการคาดคะเนว่าน่าจะมีราคาไม่สูงมากนักซึ่งส่งผลต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรชาวไร่อ้อยเขต 7 ในโซนจังหวัดราชบุรีได้มายื่นหนังสือเรียกร้องผ่านไปยังรัฐบาลให้มาตรการประกันรายได้เหมือนพืชหลักคือเกษตรอื่น ๆ เช่นมันสำปะหลัง ข้าว แต่อ้อยยังไม่มีนโยบายออกมา เพื่อที่จะช่วยเหลือชาวเกษตรกรไร่อ้อย ซึ่งทางจังหวัดก็จะมอบหมายให้ทางเกษตรจังหวัดทำหนังสือส่งไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งดูแลสัมปทาน อ้อย และน้ำตาล รวมไปถึงสำนักงานนายกรัฐมนตรีให้ได้รับทราบปัญหาความต้องการของเกษตรกร สาวนนายสุทิน ชฎาดำ กรรมการบริหารสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 ซึ่งเป็นตัวแทนเกษตรกรที่ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ก็บอกว่ามายื่นหนังสือหลังได้รับความเดือดร้อนราคาอ้อยตกต่ำผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งราคาอ้อยที่ประกาศออกมาที่ 1,131 บาทนั้นไม่ถึงซึ่งราคาจริงอยู่ที่ 700 บาทต่อตัน และเป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้วเราจึงได้ยื่นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราคาอ้อย ในส่วนของเรื่องอื่น ๆ ก็จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบส่งไปโดยตรง ในส่วนของราคา 1000บาท ราคาก็ยังไม่คุ้มทุน ซึ่งมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ได้ร่วมรัฐบาลได้มีนโยบายออกมาว่าจะประกันราคาอ้อยให้ได้ 1000 บาท แต่ก็สามารถประคองไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาเคยได้ราคาอยู่ที่ 1150 บาท บวกค่าความหวานแล้ว รวมเป็น 1200 บาท ซึ่งอ้อยไม่มีการประกันราคา มีแต่ข้อตกลงระหว่างเกษตรกรกับโรงงานโดยมีรัฐบาลเป็นตัวกลาง ซึ่งในพื้นที่ จ.ราชบุรีมีปริมาณอ้อยอยู่ที่ 2 ล้านตันต่อปี มีพื้นที่ปลูกประมาณ 220,000 ไร่ จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกอ้อยให้ได้รับราคาอ้อยตามที่ได้มีการยื่นหนังสือขอมาด้วย