สคร.9 โคราช จับมือภาครัฐ เอกชน สู้ภัยโรคไข้หวัดใหญ่ วัณโรค ตั้งตู้หน้ากากอนามัยแบบหยอดเหรียญ สร้างเมืองน่าอยู่ ปลอดโรค ปลอดภัย เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ตุลาคม ที่ห้องประชุมนางสาวบุญเหลือ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายอภินันท์ เผือกผ่อง รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อมนางกาญจนา ยังขาว รอง ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 ( สคร.) จ.นครราชสีมา ,นายแพทย์สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ รอง ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ,นายพงษ์เลิศ สุภัทรวณิชย์ รองนายเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา และตัวแทนภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ ร่วมกันพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนานวัตกรรมและพิธีมอบตู้หน้ากากอนามัยแบบหยอดเหรียญ ลดการแพร่เชื้อโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ โรคไข้หวัดใหญ่และการป้องกันฝุ่น พีเอ็ม 2.5 สู่เมืองน่าอยู่ ปลอดโรค ปลอดภัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมือง นางกาญจนา ฯ รอง ผอ.สคร.9 จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจในปัจจุบันที่กำลังระบาดใน จังหวัดนครราชสีมาคือ โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 จังหวัดนครราชสีมาพบผู้ป่วยสูง ถึง 19,314 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 730 ต่อแสนประชากร ซึ่งสูงกว่าจังหวัดอื่นๆในเขตสุขภาพที่ 9 พบผู้ป่วยเสียชีวิตใน จ.นครราชสีมา จำนวน 8 ราย อาศัยอยู่เขตอำเภอเมือง ฯ จำนวน 2 ราย สถานที่ที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคได้ง่ายได้แก่ สถานที่ที่มีประชาชน มารวมตัวกันหนาแน่น เช่น ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล และบนรถโดยสารประจำ ทางปรับอากาศ การป้องกันควบคุมโรคที่ได้ผล สำหรับโรคที่ติดต่อระบบทางเดินหายใจ คือ การใช้หน้ากากอนามัย เวลาป่วย ป้องกันไม่ให้ ไอ จาม รดกัน เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดหา หน้ากากอนามัยได้สะดวก ราคาประหยัด จึงได้จัดทำนวัตกรรมตู้หน้ากากอนามัยแบบหยอดเหรียญขึ้น ขณะนี้ได้ดำเนินการนำตู้หน้ากากอนามัยแบบหยอดเหรียญไปตั้งในพื้นที่จุดบริการประชาชน ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา สถานีรถไฟนครราชสีมา โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลค่ายสุรนารี โรงพยาบาลเทพรัตน์ และองค์กรภาคเอกชนที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ,บริษัท ไทยสงวนบริการ, ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช, ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช และศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซานครราชสีมา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงหน้ากากอนามัยอย่างทั่วถึง เมื่อมีอาการ ไอ จาม หรือป่วย เพื่อลดการแพร่เชื้อโรคติดต่อ หากได้ผลตอบรับจากประชาชนอย่างดี การขยายผลในการจัดทำหน้ากาก อนามัยที่สามารถป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมาก เช่นเชื้อวัณโรค และฝุ่นขนาดเล็ก ที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยต่อไป