ALL ย้ำผลงาน ทำ Highest Record ใหม่ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา พร้อมระบุ ตุน Backlog ในมือมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาททยอยบุ๊กยาว 4 ปีข้างหน้า ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลใจกลางเมืองในราคาที่เข้าถึงง่ายยังขยายตัวได้ดี และเข้าสู่ยุคเรียลดีมานด์ที่แท้จริง ส่งผลให้ทุกโครงการมีผลตอบรับดี ยอดขายทั้งปีโตทะลุเป้าหมาย 7,000 ล้านบาท หลัง 9 เดือนแรกมียอดขายสะสมแล้วเกือบเท่าเป้าหมาย นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2562 มีแนวโน้มจะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4,500 ล้านบาท เช่นเดียวกับยอดขาย ซึ่งจะเป็นการเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (highest record) ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทและจะเติบโตมากกว่าเท่าตัวจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,342.97 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,691.94 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มรายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทเตรียมประกาศงบ 9 เดือนเร็วๆนี้ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีความพยายามรักษาอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)ให้อยู่ในระดับ 36-37% เหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ซึ่งจาก Backlog ที่มีทำให้บริษัทฯ มั่นใจผลประกอบการในช่วง 3 ปีจากนี้ (ปี 2563 - 2565) จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการทยอยรับรู้ Backlog ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/2562 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมที่เริ่มทยอยส่งมอบ 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท 2.โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท 3.โครงการเดอะ วิชั่น ลาดพร้าว–นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท 4.โครงการ อิมเพรสชั่น ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยทั้ง 4 โครงการมียอดขายอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งจะหนุนรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2562 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อ ประกอบกับรัฐบาลมีการออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับการเตรียมมาตรการใหม่ที่จะช่วยอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผลบวกทางจิตวิทยา ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันกำลังเข้าสู่ยุคเรียลดีมานด์ในการเลือกที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้มากที่สุด ส่วนภาพรวมทั้งปี 62 มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังเตรียมเปิดขายโครงการ The Vision Ladprao-Nawamin (เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว - นวมินทร์)เฟสใหม่จำนวน 109 ยูนิต ในวันที่ 23 พ.ย.62 หลังเฟสแรกประสบความสำเร็จด้วยยอดจองกว่า 100 ยูนิต ภายในวันเดียว สะท้อนความต้องการ (ดีมานด์) ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการทาวน์โฮมไซส์ XL ฟังก์ชั่นครบ คุ้มราคา บริษัทจึงได้เปิดขายเฟสใหม่ เพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีอยู่ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลด 100,000 บาท ทั้งนี้โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์ ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 85 บนพื้นที่โครงการ 33 ไร่ 8 ตารางวา รวมจำนวน 308 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ครบทุกฟังก์ชั่น จับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเป็นบ้านหลังแรก และผู้ที่ต้องการขยายครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตามจากแผนการเตรียมเปิดโครงการดังกล่าว ส่งผลให้แนวโน้มยอดขายในปี 62 มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ช่วงต้นปีที่ระดับ 7,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.62) บริษัทมียอดขายสะสมรวมอยู่ที่เกือบ 6,500 ล้านบาท ซึ่งเกือบจะใกล้เคียงเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้า ประกอบกับการเจาะกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจริง ผู้ที่ซื้อเป็นบ้านหลังแรก ในระดับราคาขายที่เหมาะสม ทำให้คอนโดมิเนียมในทุกทำเลของบริษัทมีกระแสตอบรับที่ดี