จากภาพที่คลิปที่ปรากฏอยู่บนโลกโซเชียลในขณะนี้ เป็นภาพเหตุการณ์ที่โชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งที่ขับรถเข้าไปส่งผู้โดยสารที่ชั้น 4 อาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และได้เกิดปะทะคารมกับเจ้าหน้าที่การจัดการจราจรของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ( ASM ) ซึ่งในระหว่างที่มีการปะทะคารมโชว์เฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว ได้ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพเป็นคลิกวีดีโอเอาไว้ พร้อมพยายามโวยวายใส่เจ้าหน้าที่หาว่ากลั่นแกล้งตนเองทั้ง ๆ ที่ตนเพิ่งจอดรถเพื่อส่งผู้โดยสารและเดินมาท้ายรถเพื่อที่จะเอากระเป๋าสัมภาระให้ผู้โดยสาร แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมและล๊อกล้อรถเอาไว้ ตามภาพในคลิปโชว์เฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าวพยายามยั่วให้เจ้าหน้าที่โมโหจะได้ลงมือทำร้ายตนเองที่กำลังถ่ายคลิป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ก่อนที่คลิปดังกล่าวจะกระจายอยู่บนโลกโซเชียล และมีคนเข้ามาวิพากวิจารกันเป็นจำนวนมาก จากเหตุการณ์ดังกล่าวในวันนี้ที่ 19 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง นายกิตติพงษ์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ในเรื่องดังกล่าวจากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด ได้พบว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ตรงกับคำกล่าวอ้างของคนขับแท็กซี่คนดังกล่าวที่ได้ยินอยู่ในคลิปแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าคนขับแท็กซี่คนนี้ ได้กระทำผิดในกรณีเดียวกันที่ทางเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้บันทึกเอาไว้ถึง 78 ครั้ง ถูกปรับในข้อหาเดียวกันมาโดยตลอด ซึ่งไม่ตรงกับคำกล่าวอ้างที่ได้ยินอยู่ในคลิปแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงได้พบว่า แท็กซี่คันดังกล่าวได้ขับขึ้นมาบนชั้นชานชาลาชั้น 4 โดยที่ไม่มีผู้โดยสารนั่งมาแต่อย่างใด เป็นการวิ่งรถเปล่าขึ้นมา และค่อย ๆ ขยับรถอย่างช้ามาตั้งแต่ประตู 2 และมาจอดที่ประตู 4 มองหาผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติอยู่พักใหญ่จนกระทั่งมีชาวต่างชาติ กำลังเดินมาจากเคิบร์ในประตู 4 ออกมาเคิบร์นอกเลนส์แท็กซี่ คนขับแท็กซี่คันดังกล่าว จึงได้ลงจากรถมาเปิดกระโปรงท้ายเเละกวักมือเรียกชาวต่างชาติคนดังกล่าวให้ใช้บริการของตนเอง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จับตามองมาโดยตลอด ก่อนที่จะเข้าดำเนินการ ทำให้คนขับแท็กซี่คันดังกล่าวส่งเสียงโวยวายใส่เจ้าหน้าที่หาว่ากลั่นแกล้งตนเอง ซึ่งตามระเบียบของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นั้นที่ชานชาลาชั้น 4 เป็นสถานที่อนุญาตให้เข้ามาส่งผู้โดยสารเท่านั้น หากจะรับผู้โดยสารออกจากสนามบินต้องลงไปต่อคิวที่ชั้นสอง ซึ่งจะมีการบันทึกประวัติของแท็กซี่แต่ละคันที่รับผู้โดยสารออกไปจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ หากเกิดเหตุร้ายหรือลืมทรัพย์สินไว้ในแท็กซี่ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังสามารถตรวจสอบได้ว่าแท็กซี่คันไหนคนขับชื่ออะไร และคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวครั้งนี้ไม่ใช้เป็นครั้งแรกที่กระทำความผิดฝ่าฝืนข้อกำหนด แต่เป็นครั้งที่ 78 แล้วที่ถูกส่งไปเปรียบเทียบปรับในข้อหาเดียวกัน คือกระทำการใด ๆ อันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญ โดยพฤติการณ์ จอดรถชักชวนผู้โดยสารชาวต่างชาติให้ใช้บริการของตน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าอากาศยานไทย