เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 19 ตุลาคม พ.ต.อ คเชนทร์ เสตะปุตตะ ผกก.สภ.เมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ในที่ทำการมูลนิธิพุทธธรรม ฮุก.31 นครราชสีมา สาขาวัดแจ้งใน ถ.โยธา เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง บริเวณสี่แยกเต็กฮะ พบร่องรอยการงัดสายยูหูช้างคล้องกุญแจประตูทางเข้าด้านหลัง ซึ่งอยู่เยื้องทางเข้าวัดแจ้งใน ด้านทิศตะวันออก บริเวณจุดรับบริจาคหน้าองค์ฮ้อฮุ้งเซี้ยโจ้ว เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮุกและคนไทยเชื้อสายจีน คนร้ายได้พยายามงัดตู้รับบริจาคซึ่งเป็นเงินสดที่ได้จากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา เพื่อเป็นทุนสนับสนุนกิจการกู้ภัยและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ แต่ไม่สำเร็จ โดยฝาตู้เปิดออกเพียงเล็กน้อยแต่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปด้านในได้ เนื่องจากเป็นตู้เหล็กที่มีกุญแจขนาดใหญ่พันธนาการอย่างแน่นหนา จึงโจรกรรมลิ้นชักโต๊ะทำงานของพนักงานมูลนิธิ ฯ และตู้รับบริจาคสนับสนุนค่าน้ำค่าไฟฟ้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ได้เดินมาตรวจหาลายนิ้วมือแฝงตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปประกอบการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ คเชนทร์ ฯ ผกก.สภ.เมือง ฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ตค.ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้ถูกประกอบเหตุโจรกรรมทรัพย์สินในตู้รับบริจาครวม 4 ตู้ ซึ่งเป็นเงินสดมูลค่ากว่า 4 หมื่นบาท หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลทางลับพร้อมนำตัวผู้สงสัยมาสอบสวนและเก็บลายนิ้วมือแฝง เบื้องต้นตรวจสอบตามงย่ามใจมาประกอบเหตุในจุดเดิมซ้ำรอยอีก ตนได้ชี้แนะให้ผู้รับผิดชอบต้องวางมาตรการป้องกันตัวเองด้วยและสั่งการให้ชุดสืบสวนประกบติดผู้ต้องสงสัย โดยรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด หากสามารถเชื่อมโยงกับพฤติการณ์ประกอบเหตุจะได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับได้ทันที
ด้านนายศักดิ์ชัย พงษ์พินิจกุล ผู้ดูแลรับผิดชอบจุดรับบริจาค กล่าวเพิ่มเติมว่า ทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมเป็นเงินสดประมาณ 5-6 พันบาท ส่วนผู้ต้องสงสัยตนได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจครอบคุลมทุกประเด็น โดยเฉพาะคนในจะทราบดี หลังเกิดเหตุเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา มูลนิธิ ฯ ได้ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาใหม่ทุกวันศุกร์จะเปิดตู้รับบริจาคนำเงินสดออกมาตรวจนับ ก่อนเกิดเหตุในตู้เหล็กมีเงินสดกว่า 7 หมื่นบาท ซึ่งตนได้เสนอให้คณะกรรมการบริหารงานมูลนิธิ ฯ ของบดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดแล้ว
นครราชสีมา/เกษม ชนาธินาถ
ที่เกิดเหตุตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง บริเวณสี่แยกเต็กฮะ พบร่องรอยการงัดสายยูหูช้างคล้องกุญแจประตูทางเข้าด้านหลัง ซึ่งอยู่เยื้องทางเข้าวัดแจ้งใน ด้านทิศตะวันออก บริเวณจุดรับบริจาคหน้าองค์ฮ้อฮุ้งเซี้ยโจ้ว เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮุกและคนไทยเชื้อสายจีน คนร้ายได้พยายามงัดตู้รับบริจาคซึ่งเป็นเงินสดที่ได้จากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา เพื่อเป็นทุนสนับสนุนกิจการกู้ภัยและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ แต่ไม่สำเร็จ โดยฝาตู้เปิดออกเพียงเล็กน้อยแต่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปด้านในได้ เนื่องจากเป็นตู้เหล็กที่มีกุญแจขนาดใหญ่พันธนาการอย่างแน่นหนา จึงโจรกรรมลิ้นชักโต๊ะทำงานของพนักงานมูลนิธิ ฯ และตู้รับบริจาคสนับสนุนค่าน้ำค่าไฟฟ้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ได้เดินมาตรวจหาลายนิ้วมือแฝงตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปประกอบการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ คเชนทร์ ฯ ผกก.สภ.เมือง ฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ตค.ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้ถูกประกอบเหตุโจรกรรมทรัพย์สินในตู้รับบริจาครวม 4 ตู้ ซึ่งเป็นเงินสดมูลค่ากว่า 4 หมื่นบาท หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลทางลับพร้อมนำตัวผู้สงสัยมาสอบสวนและเก็บลายนิ้วมือแฝง เบื้องต้นตรวจสอบตามงย่ามใจมาประกอบเหตุในจุดเดิมซ้ำรอยอีก ตนได้ชี้แนะให้ผู้รับผิดชอบต้องวางมาตรการป้องกันตัวเองด้วยและสั่งการให้ชุดสืบสวนประกบติดผู้ต้องสงสัย โดยรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด หากสามารถเชื่อมโยงกับพฤติการณ์ประกอบเหตุจะได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับได้ทันที
ด้านนายศักดิ์ชัย พงษ์พินิจกุล ผู้ดูแลรับผิดชอบจุดรับบริจาค กล่าวเพิ่มเติมว่า ทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมเป็นเงินสดประมาณ 5-6 พันบาท ส่วนผู้ต้องสงสัยตนได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจครอบคุลมทุกประเด็น โดยเฉพาะคนในจะทราบดี หลังเกิดเหตุเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา มูลนิธิ ฯ ได้ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาใหม่ทุกวันศุกร์จะเปิดตู้รับบริจาคนำเงินสดออกมาตรวจนับ ก่อนเกิดเหตุในตู้เหล็กมีเงินสดกว่า 7 หมื่นบาท ซึ่งตนได้เสนอให้คณะกรรมการบริหารงานมูลนิธิ ฯ ของบดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดแล้ว
นครราชสีมา/เกษม ชนาธินาถ