เพจสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความระบุว่า...นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางเยือนฮังการีอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำด้านน้ำบูดาเปสต์ 2019 (Budapest Water Summit 2019) และลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงมหาดไทยฮังการี ณ กรุงบูดาเปสต์ เมื่อวันที่ 13-16 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา การประชุมสุดยอดผู้นำด้านน้ำบูดาเปสต์ 2019 ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้คำขวัญ “การป้องกันวิกฤตด้านน้ำ” หรือ “Preventing Water Crisis” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือของประชาคมโลกจากภาคการเมือง ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ภาคธุรกิจ การเงินและนักวิชาการ ในการหาแนวทางร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตด้านน้ำที่กำลังจะเกิดขึ้นและที่เกิดขึ้นแล้ว โดยพิจารณาจาก 3 เรื่องหลัก คือ กฤตการขาดแคลนน้ำ วิกฤตน้ำมากเกินความต้องการ วิกฤตน้ำเสีย/น้ำปนเปื้อนมลพิษ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าเทคโนโลยีด้านน้ำของภาคเอกชนฮังการี โดยมีภาคเอกชนชั้นนำเข้าร่วมกว่า 30 ราย ประเทศไทยได้ใช้เวทีนี้ในการแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชนในการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการน้ำ เช่น ด้านคุณภาพน้ำ น้ำอุปโภคบริโภคที่สะอาด รวมถึงแนวทางความร่วมมือการบริหารจัดการน้ำระดับภูมิภาคโดยให้คำนึงถึงน้ำที่ต้องใช้ร่วมกันด้วย นายเทวัญ กล่าวเพิ่มเติมถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่าง สทนช.กับกระทรวงมหาดไทยฮังการี ร่วมกับนายชานดอร์ พินแตร์ (Sandor Pinter) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยฮังการี และการหารือระดับทวิภาคีระหว่างสองประเทศด้วยว่า ฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมสองฝ่ายโดยเร็ว เพื่อเร่งรัดการจัดทำแผนงานและโครงการความร่วมมือด้านน้ำภายใต้เอ็มโอยูที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน โดยเฉพาะการจัดการน้ำแบบบูรณาการทั้งน้ำท่วม-น้ำแล้ง การจัดการน้ำเสียและการใช้ประโยชน์จากน้ำบาดาลที่ฮังการีมีความเชี่ยวชาญ เลขาธิการ สทนช. เป็นผู้รับผิดชอบประสานงานกับฝ่ายฮังการี เพื่อนำไปสู่กรอบแนวทางความร่วมมือด้านน้ำของสองประเทศที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนโดยเร็ว ฝ่ายฮังการีได้เสนอให้ทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาโท-เอกด้านน้ำแก่ประเทศไทยให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของฮังการีอีกด้วย ล่าสุด สทนช. ได้ประกาศเตือน ช่วงวันที่ 18 - 19 ตุลาคม 2562 บริเวณภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัด ▶️ประจวบศีรีขันธ์ ▶️ชุมพร ▶️สุราษฎร์ธานี ▶️นครศรีธรรมราช ▶️พัทลุง ▶️สงขลา ▶️ปัตตานี ▶️ยะลา ▶️นราธิวาส ▶️ระนอง ▶️พังงา ▶️ภูเก็ต ▶️กระบี่ ▶️ตรัง ▶️สตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมากและฝนที่สะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมาคลื่นสูง 12 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้นทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ขอบคุณข้อมูลและภาพ : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ