“บิ๊กตู่” แจงสภา ยันใช้งบตามระเบียบ เกลี่ยให้ทุกพื้นที่ ปล่อยมุกอย่าคิดถึงผม ลาก่อนชั่วคราว ก่อนออกไปปฎิบัติภารกิจช่วงเย็น จากนั้นเวลา 15.05 . ที่รัฐสภาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อสภาอีกครั้ง ระหว่างการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในข้อสักถามของฝ่ายค้าน ประเด็นต่างๆ พร้อมกล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้นสามารถปรับได้ทุก 5 ปีหรือเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงชทั้งภายในและภายนอกก็สามารถแก้ไขได้ในแต่ละหัวข้อ ซึ่งตามแผนกำหนดไว้ 6 หัวข้อครอบคุมทั้งหมด อย่างไรก็ตามในยุคดิสรัปชั่นมีคนตกงานจำนวนมาก เราก็ต้องดูช่วยพัฒนาทักษะและปรับเปลี่ยนอาชีพให้กับคนไทย กระตุ้นให้พัฒนาตนเองและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามา “ ในเรื่องของงบประมาณไว้ผมจะขอสรุปอีกครั้งหนึ่ง ช่วงนี้ผมขอออกไปปฏิบัติภารกิจ และอย่าคิดถึงผมก็แล้วกัน เห็นเมื่อสักครู่ตอนที่ผมยังไม่เข้ามาเรียกหานายกฯ กันจัง ผมดูอยู่ตลอดเวลาในทีวีบนรถ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวสรุปในเรื่องของงบประมาณ ก่อนที่จะเดินทางเพื่อออกไปปฏิบัติภารกิจในช่วงเย็น ตอนหนึ่งว่า อย่างไรก็ตามงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ลองคิดดูว่าสิ่งที่เสนอเข้ามา เกินจากจำนวนเงินนี้ คิดง่ายๆ ตามที่หลายท่านบอกให้ตัดงบตรงนั้นมาใส่ตรงนี้ ขอถามว่าแล้วมันจะไปกันอย่างไร มันไปกันไม่ได้ เพราะมีหน่วยงานเยอะแยะไปหมด ถ้าลดได้มากกว่านี้ได้หรือไม่ แค่วันนี้ยังทำงานกันไม่ทันเลย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ งบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท มีการกลั่นกรองโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.)รวมทั้งสำนักงบประมาณ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงตัดได้เหลือจำนวนเท่านี้ โดยงบประมาณได้มีการเกลี่ยไปทุกจังหวัด แต่ถ้ามีเรื่องเร่งด่วนก็สามารถใช้ในส่วนของงบกลางได้ ที่ผ่านมาเวลาไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ก็อนุมัติงบกลางให้มาโดยตลอด เพราะเป็นการขอมาอย่างเร่งด่วนแล้วไม่ได้อยู่ในแผน แต่ทั้งหมดก็ต้องผ่านการพิจารณาของ ครม.มีแผนงานและรายละเอียด ไม่ใช่มีกระดาษมาเพียง 2 แผ่นแล้วจะอนุมัติได้ถ้าเป็นแบบนี้ตนไม่อนุมัติ ไม่นำเข้า ครม.เด็ดขาด นี่คือตน ทุกอย่างไม่ง่าย ตนจึงขอความร่วมมือจาก ครม. ซึ่งมาจากหลายพรรคการเมือง ให้เข้าใจว่าทุกวันนี้ พ.ร.บ.งบประมาณ เปลี่ยนไปแล้ว เพราะฉะนั้นเงินงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ถ้าตกลงได้ตามนี้ก็จะไปอยู่ในการพิจารณาในวาระที่ 2 ไปแปรญัตติกันขึ้นมา แต่การจะแปรญัตติ เมื่อตัดหน่วยงานหรืองบประมาณของใครก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาไปทำอะไรก็ได้ ต้องนำกลับเข้ามาอยู่ตรงกลาง แล้วจึงพิจารณาให้กับหน่วยงานที่ยังขาด ซึ่งมีแผนงานและความพร้อมมากกว่า “ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมกรุณาไปศึกษาให้ละเอียดด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของระเบียบวิธีงบประมาณ ผมก็ศึกษาเอาเอง ทั้งถามลูกน้องหรืออ่านหนังสือเองบ้างเป็นหลักการกว้างๆ ที่ผมควรจะรู้ เพื่อที่จะบริหารได้ หลายคนบอกว่าผมเป็นทหารจะไปรู้เรื่องอะไร รู้แต่เรื่องการรบรา ผมก็จำเป็นต้องศึกษา เมื่อเป็นนายกฯก็ต้องศึกษาทุกเรื่อง ไม่รู้เรื่องผมก็รับผิดชอบไม่ได้ ขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจ เรารับเรื่องทุกเรื่องที่ท่านพูดมาทั้งหมด ผมฟังมา 2 วันแล้วและผมก็เริ่มชินแล้วล่ะ เอ๊ะ!มันก็สบายดีนั่งอยู่ตรงนี้ แต่อย่างว่าผมก็ต้องไปเซ็นงานและทำงานอย่างอื่น มีภารกิจอื่นบ้าง ก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน มีอะไรก็สอบถามกันได้ ค่อยเจอกันใหม่ก็แล้วกันนะครับลาก่อนชั่วคราว สวัสดีครับ” ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ พูดจบก็หันไปส่งยิ้มหวานให้กับสมาชิกในห้องประชุม และหันไปทำความเคารพนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ในฐานะประธานที่ประชุมขณะนั้น ขณะที่นายศุภชัยได้กล่าวว่า “ถ้าท่านนายกฯเหนื่อยก็แบ่งๆให้รองนายกฯหรือให้รัฐมนตรีช่วยตอบแทนบ้างก็ได้ เห็นใจท่านนายกฯ อยู่เหมือนกัน”