วันที่ 18 ตุลาคม นายอานนท์ โลดทนงค์ รองประธานสภาเกษตร จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับผิดชอบด้านสับปะรด เปิดเผยว่า ในฐานะที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ปลูกสับปะรดมากที่สุดในประเทศกว่า 4 แสนไร่ เพื่อป้อนอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋องส่งออกในจังหวัดที่มีโรงงานมากที่สุดในประเทศ ขอเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับชาวไร่ กรณีสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทย ขอให้แก้ไขปัญหาการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยหัวหน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ลงนามในหนังสือราชการ ในการทำงานวันสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 แจ้งโรงงานสับปะรดกระป๋องทุกแห่งในจังหวัดจ่ายเงินชดเชยให้ลูกจ้างต่างด้าว ตามมาตรา 75 พรบ.คุ้มครองแรงงาน 2524 กำหนดการจ้างตลอด 12 เดือน "ขณะที่โรงงานสับปะรดขอยึดแนวทางเดิมที่ปฏิบัติมานาน เนื่องจากช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายนของทุกปี โรงงานจะหยุดการผลิตตามฤดูกาลนานกว่า 30 ปี ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันโรงงานประสบปัญหาในการส่งออกจากค่าเงินบาทแข็งค่า ประเทศคู่ค้าตั้งกำแพงภาษีส่งออกสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นแนวโน้มของตลาดโลกในการบริโภคสับปะรดกระป๋องลดลง ทำให้พื้นที่ปลูกในจังหวัดลดลงกว่า 40 % และในฤดูกาลผลิตที่จะถึงปลายเดือนตุลาคมนี้ ถ้าโรงงานต้องแบกรับภาระค่าแรงที่ต้องจ่ายชดเชยตามกฎหมาย โรงงานจะต้องลดราคารับซื้อวัตถุดิบอย่างแน่นอน" นายอานนท์ กล่าวว่า นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีต สส. พรรคเพื่อไทย คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้ไม่มีผลกระทบและมีข้อยุตินายวีระกร คำประกอบ ประธาน กมธ.ได้ทำหนังสือแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน ตัวแทนสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรด สมาคมชาวไร่สับปะรด เดินทางไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับ กมธ.ที่รัฐสภาในวันที่ 22 ตุลาคม นี้ เพื่อให้มีข้อผ่อนปรนที่เหมาะสมแทนการใช้กฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับธุรกิจการใช้แรงงานแปรูปสินค้าเกษตรที่มีผลผลิตตามฤดูกาลหลายชนิด